Strongest Sect of All Times Chapter 256 Heyang Commandery was a little lively
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 256 Heyang Commandery was a little
lively
河阳郡有点热闹了
อาหารที่หลิวหว่านซีศึกษา,แม้นว่าจะช่วยยกระดับพลังให้แข็งแกร่งขึ้น,ทว่าสมุนไพรที่ผสมกันนั้นเกิดเป็นพิษ,ทำให้เจ้าสำนักจุนติดพิษไป.
แน่นอน.
2-3 เดือนที่ต้องพักฟื้นนั้นที่เหล่าเหว่ยเอ่ย,เป็นในมุมมองของคนทั่วไป.
ส่วนจุนซ่างเซียวที่กลั่นร่างกายมาจนแข็งแกร่ง,พัก
2-3 วันก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิม.
นี่หมายความว่าอย่างไร?
ไม่ผิด,ดวงแข็ง,ตายยาก!
“เจ้าสำนัก.”
หลิวหว่านซี่ที่พุ่งเข้ามา,ก้มหน้ากล่าวตำหนิตัวเอง,”ข้าขอโทษ,ข้าผิดไปแล้ว,ข้ายินดีที่จะรับโทษ.”
จุนซ่างเซียวจะใจร้ายลงโทษโลลิน่ารักเช่นนี้ได้อย่างไร?
หนำซ้ำ,อาหารที่นางวิจัยยังช่วยยกระดับพลังขึ้นได้,ความตั้งใจดี,เพียงแต่กระบวนการผิดพลาดก็เท่านั้น.
“ศึกษาเรื่องสมุนไพรกับเหลาเหว่ยให้ดี,นั่นคือการลงโทษ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
โชคดีที่เกิดเรื่องกับเขาแทน,หากว่าเป็นศิษย์คนอื่น
ๆอาจจะไม่รอด,เด็กสาวคนนี้คงรู้สึกผิดตลอดไป.
“อืม.”
หลิวหว่านซี่ที่รู้ว่านี่ไม่ใช่การลงโทษ,ดังนั้นนางจึงได้เตือนตัวเองซ้ำ
ๆ,ว่าจะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องสมุนไพรให้มากกว่านี้.
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”อาหารที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่งไม่ต้องหยุด,ศึกษาให้ดีต่อไป.”
อาหารที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่ง,แม้แต่ไม่ได้ด้อยกว่ายันต์แห่งพลัง,ไม่จำเป็นต้องใช้แต้มสนับสนุน,เรื่องใหญ่ขนาดนี้,เขาต้องสนับสนุน.
“เจ้าสำนัก.”
หลิวหว่านซีเอ่ย,”ข้ากลัวว่าจะพบปัญหาอีก.”
จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้นนั่ง,มือทั้งสองที่ยกถ้วยซุปขึ้นดื่ม,”อย่าได้กลัวล้มเหลว,อย่ายอมแพ้,ตั้งใจมาก
ๆ,แล้วจะประสบความสำเร็จเอง.”
“เข้าใจแล้ว!”
ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าสำนัก,หลิวหว่านซี่ที่กับมามั่นใจอีกครั้ง!
นอกจากนี้,นางยังมีความมั่นใจที่จะศึกษามากขึ้น,ว่าอาหารของนางจะปลอดภัยอย่างแท้จริง.
เพราะว่านางศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบจากเหล่าเหว่ย,เพียงแค่ฟังไม่กี่วัน,ก็เข้าใจเกี่ยวกับวัตถุดิบยามากมายหลากหลาย!
“ข้าต้องตั้งใจ,ข้าจะต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ.”
”ó ó ó!”
หลิวหว่านซี่ที่มุ่งตรงไปยังสวนสมุนไพร,ศึกษาวัตถุดิบยากับเหล่าเหว่ยทันที.
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา,กล่าวเสียงเบา,”เพียงแค่สมุนไพรทั่วไปทำอาหาร,ก็สามารถยกระดับความแข็งแกร่งได้,สาวน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง
ๆ.”
นาง.
นางเป็นใครจากใหนกัน?
จุนซ่างเซียวรู้เพียงว่าหลิวหวานซีถูกคนร้ายไล่ตามที่เมืองชิงหยาง,จากนั้นตัวเองก็ช่วยเอาไว้.
ไม่ใช่สิ.
ยังมีอีกเรื่อง.
ลู่เชียนเชียนเคยบอกว่านางอาจจะเกี่ยวข้องกับตระกูลโอวหยาง,เมืองหลวงเทียนหยู,ที่ศึกษาเกี่ยวกับอาหาร,แม้แต่ช่วยยกระดับวิถียุทธ์.
“ตู้ตู้เป็นไปได้ว่าเป็นทายาทของตระกูลโอวหยางเมืองหลวงเทียนหยูหรือไม่?”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา.
แต่นางก็ใช้ชื่อหลิวหว่านซี่,ไม่ใช่โอวหยางหวานซี่ไม่ใช่รึ?
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่ถอนหายใจ,”ศิษย์ของข้าดูเหมือนมีแต่คนไม่ธรรมดา,ข้าที่เป็นเจ้าสำนัก,คาดไม่ถึงจะไม่รู้อะไรกับพวกเขาเลย.”
ยกตัวอย่างลู่เชียนเชียน,หรือจะเป็นเย่ซิงเฉิน.
ที่จริง,เขาสามารถส่งคนไปสืบที่เมืองหลวงเทียนหยูได้,ซึ่งก็จะทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับหลิวหว่านซี่ขึ้นมาบ้าง.
ทว่าตัวเขาที่ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตของศิษย์นัก,ไม่ว่าจะเป็นใครย่อมมีความลับเป็นของตัวเอง,ในเมื่อพวกเขาเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว,ก็ถือว่าเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว.
ขอเพียงพวกเขาภัคดีต่อสำนัก,เขาย่อมเป็นร่มเงาให้กับศิษย์ทุกคน,มีเพียงอย่างเดียวที่เขาต้องการคือแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น.
เจ้าสำนักเช่นนี้ในทวีปชิงหยุน,นับว่าหาได้ยากมาก!”
อย่างไรก็ตาม.
สำนักไท่กู่เจิ้งในเวลานี้อาจจะไม่สถานที่ปลอดภัยเหมือนกัน.
เพราะว่าในเวลานี้ในมนทลเหอหยางได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น,เจ้าสำนักฉีซาน,หลังจากงานประลองจบแล้ว,ผ่านมาเครื่องเดือนแล้ว,ยังไม่กลับสำนัก.
เจ้าสำนักเหลียวและตัวตนระดับสูงของสำนักหายไปพร้อม
ๆ กัน.
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา.
จะต้องมีเรื่องไม่ถูกต้องซ่อนอยู่อย่างแน่นอน.
“ข้าได้ยินมาว่า,หลังจากงานประลองจบลง,มียอดฝีมือหลายคนที่ไล่ตาม,ศิษย์ของสำนักระดับแปดต่างมนทลไป.”
“เจ้าสำนักเหลียวและคนของอีกหลายสำนัก,บางที่ได้ไปยังมนทลชิงหยางแล้วอย่างงั้นรึ?”
“เป็นไปไม่ได้,ข้าได้ยินข่าวมาว่า,พวกเขาขวางศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งเอาไว้ที่มนทลเหอหยาง.”
“เซียวจุ้ยจื่อแม้นว่าจะมีความแข็งแกร่งไม่เลว,ทว่าก็มีระดับศิษย์ยุทธ์เท่านั้น,ต่อหน้าเจ้าสำนักเหลียวที่มีระดับบรรพชนยุทธ์,แน่นอนว่าไม่มีพลังต่อต้านอย่างแน่นอน.”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว,ไม่ใช่ว่าควรกลับมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว,เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?”
“เจ้าคิดว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งคนเดียวจะสังหารเจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น
ๆได้อย่างงั้นรึ?”
“เวลานี้อาวุโสใหญ่ของสำนักได้สั่งให้ศิษย์จำนวนมากลงเขาไปสืบข่าวแล้ว.”
“ด้วยจำนวนและเส้นสายของพวกเขาคงจะได้ข่าวเร็ว
ๆนี้.”
เรื่องของเจ้าสำนักระดับหกที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย,ทันใดนั้นกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนในมนทลเหออย่างพูดคุยกันเสียงดัง.
ทว่าจะพูดคุยกันมากมายเพียงใด,แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าคนเหล่านั้นจะตายไปด้วยสำนักไท่กู่เจิ้ง.
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจุนซ่างเซียวจะทำลายศพจนไม่เหลือหลักฐานแล้ว,ทว่าโลกนี้ยังมีอะไรที่พวกเขาไม่รู้,ผู้ฝึกยุทธ์ที่หลากหลายย่อมมีวิธีที่แปลกประหลาด,ไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีคนรู้ความจริงเป็นแน่.
และด้วยเหตุนี้,เขาจึงได้เตรียมแผนการตั้งแต่เนิ่น
ๆนานแล้ว.
ขณะที่เหล่าคนมากมายที่ตามหาตัวกันวุ่นไปหมด,คนของหอฝนพรำก็แพร่ข่าวลือออกไป.
ข่าวลืออะไร?
ที่ป่าเขาของมนทลเหอหยาง,เกิดเหตการณ์บางอย่างขึ้นในทันที,มีของวิเศษที่น่าสงสัยปรากฏขึ้น.
ข่าวดังกล่าวนี้ได้ปรากฏขึ้น,ปรากฏผู้ฝึกยุทธ์มากมายที่บ้าคลั่ง,แม้แต่มีคนนำเรื่องของเจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น
ๆที่หายไปมาเกี่ยวพันธ์กัน.
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ปรารถนาความแข็งแกร่ง,ปรากฏการณ์ของ,สุดยอดของวิเศษที่ปรากฏขึ้นนั้น,เหล่าผู้ฝึกยุทธ์มากมายย่อมไล่ตามไปในทันที.
หลาย ๆ ครั้ง,ผู้คนมากมาย ไม่ลังเลที่จะสังหารกันและกัน.
มียอดฝีมือมากมาย,ที่ต้องพบกับความโชคร้ายในการไล่ล่าค้นหาของวิเศษ.
คนเหล่านี้,ปรารถนาคามแข็งแกร่ง,ต้องการของวิเศษ,แม้นว่าด้านหน้าจะเป็นหุบเขาลึกไร้ก้นบึ้ง,ก็พร้องจะกระโดดลงไปอย่างไม่ลังเล.
กล่าวอีกอย่างหนึ่ง.
จุนซ่างเซียวปล่อยข่าวลือเช่นนี้เพื่ออะไร?
แน่นอนว่าต้องการให้คนของมนทลชิงหยางเชื่อว่า,เจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น
ๆที่หายไปเกี่ยวข้องกับการปรากฏตัวของ,สมบัติวิเศษ.
เป็นเช่นนั้นจริง ๆ.
เมื่อข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป,เหล่าชาวยุทธ์มากมายที่คาดเดากัน,ว่าเจ้าสำนักฉีซานและผู้ฝึกยุทธ์อีกหลายคนที่ไม่กับมานั้น,เป็นไปได้ว่าต้องการค้นหาสมบัติวิเศษ?
“ข้าได้ยินมาว่าสมบัติวิเศษนั้นปรากฏขึ้นที่หุบเขาแห่งหนึ่ง,ปรากฏเป็นรอยแยกบนพื้นปรากฏอุโมงค์ขึ้น,เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็หายไป!”
“เช่นนั้น,เจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น
ๆพบทางเข้า,เลยเข้าไปหาของวิเศษ,ดังนั้นจึงไม่กลับมางั้นสิ!”
“มีความเป็นไปได้ 80% “
เหล่าชาวยุทธ์ไม่น้อยที่คล้อยตามแผนการปล่อยข่าวลือของจุนซ่างเซียว.
บางคนถึงกับพูดเป็นตุเป็นตะราวกับเห็นกับตาตัวเอง,นั่นไม่เท่ากับยอมรับข่าวลือเป็นความจริงหรอกรึ?
ต้องขออภัย,ในเมื่อจุนซ่างเซียวลงมือแล้ว,ย่อมหาทางแก้ไขวางแผนเอาไว้อย่างดีแล้ว,ไม่เช่นนั้นจะหลอกลวงคนเหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบได้อย่างไร?
ไม่ว่าของวิเศษนั้นจะมีจริงหรือไม่,การให้คนของมนทลชิงหยางพูดกันไม่หยุด,ท้ายที่สุดก็จะมีคนเชื่อเช่นนั้น.
หลังจากที่มีหลากหลายคนได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเจ้าสำนักฉีซานและคนจากหลากหลายสำนัก,แม้นว่าจะเต็มไปด้วยความสงสัย,ทว่าพวกเขาก็กับมุ่งมั่นที่จะหาสมบัติวิเศษนั่นแทน,แม้แต่ระดมกำลังค้นหาในป่าเขากันอย่างแข็งขัน.
จะด้วยเหตุผลใดตามที่พวกเขาคาดเดาเป็นจริงตามนั้นหรือไม่?,แต่คงไม่มีใครคิดได้ว่า,สำนักระดับแปดที่อยู่นอกมนทล,เป็นคนลงมือสังหารเจ้าสำนักเหลียวและคนของสำนักต่าง
ๆได้อย่างแน่นอน.
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น