วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 256 Heyang Commandery was a little lively

Strongest Sect of All Times  Chapter 256 Heyang Commandery was a little lively

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล


Chapter 256 Heyang Commandery was a little lively

河阳郡有点热闹了

 

อาหารที่หลิวหว่านซีศึกษา,แม้นว่าจะช่วยยกระดับพลังให้แข็งแกร่งขึ้น,ทว่าสมุนไพรที่ผสมกันนั้นเกิดเป็นพิษ,ทำให้เจ้าสำนักจุนติดพิษไป.

แน่นอน.

2-3 เดือนที่ต้องพักฟื้นนั้นที่เหล่าเหว่ยเอ่ย,เป็นในมุมมองของคนทั่วไป.


ส่วนจุนซ่างเซียวที่กลั่นร่างกายมาจนแข็งแกร่ง,พัก 2-3 วันก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิม.

นี่หมายความว่าอย่างไร?

ไม่ผิด,ดวงแข็ง,ตายยาก!

“เจ้าสำนัก.”

หลิวหว่านซี่ที่พุ่งเข้ามา,ก้มหน้ากล่าวตำหนิตัวเอง,”ข้าขอโทษ,ข้าผิดไปแล้ว,ข้ายินดีที่จะรับโทษ.”

จุนซ่างเซียวจะใจร้ายลงโทษโลลิน่ารักเช่นนี้ได้อย่างไร?

หนำซ้ำ,อาหารที่นางวิจัยยังช่วยยกระดับพลังขึ้นได้,ความตั้งใจดี,เพียงแต่กระบวนการผิดพลาดก็เท่านั้น.

“ศึกษาเรื่องสมุนไพรกับเหลาเหว่ยให้ดี,นั่นคือการลงโทษ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

โชคดีที่เกิดเรื่องกับเขาแทน,หากว่าเป็นศิษย์คนอื่น ๆอาจจะไม่รอด,เด็กสาวคนนี้คงรู้สึกผิดตลอดไป.

“อืม.”

หลิวหว่านซี่ที่รู้ว่านี่ไม่ใช่การลงโทษ,ดังนั้นนางจึงได้เตือนตัวเองซ้ำ ๆ,ว่าจะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องสมุนไพรให้มากกว่านี้.

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”อาหารที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่งไม่ต้องหยุด,ศึกษาให้ดีต่อไป.”

อาหารที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่ง,แม้แต่ไม่ได้ด้อยกว่ายันต์แห่งพลัง,ไม่จำเป็นต้องใช้แต้มสนับสนุน,เรื่องใหญ่ขนาดนี้,เขาต้องสนับสนุน.

“เจ้าสำนัก.”

หลิวหว่านซีเอ่ย,”ข้ากลัวว่าจะพบปัญหาอีก.”

จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้นนั่ง,มือทั้งสองที่ยกถ้วยซุปขึ้นดื่ม,”อย่าได้กลัวล้มเหลว,อย่ายอมแพ้,ตั้งใจมาก ๆ,แล้วจะประสบความสำเร็จเอง.”

“เข้าใจแล้ว!

ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าสำนัก,หลิวหว่านซี่ที่กับมามั่นใจอีกครั้ง!

นอกจากนี้,นางยังมีความมั่นใจที่จะศึกษามากขึ้น,ว่าอาหารของนางจะปลอดภัยอย่างแท้จริง.

เพราะว่านางศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบจากเหล่าเหว่ย,เพียงแค่ฟังไม่กี่วัน,ก็เข้าใจเกี่ยวกับวัตถุดิบยามากมายหลากหลาย!

“ข้าต้องตั้งใจ,ข้าจะต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ.”

”ó ó ó!”

หลิวหว่านซี่ที่มุ่งตรงไปยังสวนสมุนไพร,ศึกษาวัตถุดิบยากับเหล่าเหว่ยทันที.

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา,กล่าวเสียงเบา,”เพียงแค่สมุนไพรทั่วไปทำอาหาร,ก็สามารถยกระดับความแข็งแกร่งได้,สาวน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ.”

นาง.

นางเป็นใครจากใหนกัน?

จุนซ่างเซียวรู้เพียงว่าหลิวหวานซีถูกคนร้ายไล่ตามที่เมืองชิงหยาง,จากนั้นตัวเองก็ช่วยเอาไว้.

ไม่ใช่สิ.

ยังมีอีกเรื่อง.

ลู่เชียนเชียนเคยบอกว่านางอาจจะเกี่ยวข้องกับตระกูลโอวหยาง,เมืองหลวงเทียนหยู,ที่ศึกษาเกี่ยวกับอาหาร,แม้แต่ช่วยยกระดับวิถียุทธ์.

“ตู้ตู้เป็นไปได้ว่าเป็นทายาทของตระกูลโอวหยางเมืองหลวงเทียนหยูหรือไม่?”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา.

แต่นางก็ใช้ชื่อหลิวหว่านซี่,ไม่ใช่โอวหยางหวานซี่ไม่ใช่รึ?

“เฮ้อ.”

จุนซ่างเซียวที่ถอนหายใจ,”ศิษย์ของข้าดูเหมือนมีแต่คนไม่ธรรมดา,ข้าที่เป็นเจ้าสำนัก,คาดไม่ถึงจะไม่รู้อะไรกับพวกเขาเลย.”

ยกตัวอย่างลู่เชียนเชียน,หรือจะเป็นเย่ซิงเฉิน.

ที่จริง,เขาสามารถส่งคนไปสืบที่เมืองหลวงเทียนหยูได้,ซึ่งก็จะทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับหลิวหว่านซี่ขึ้นมาบ้าง.

ทว่าตัวเขาที่ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตของศิษย์นัก,ไม่ว่าจะเป็นใครย่อมมีความลับเป็นของตัวเอง,ในเมื่อพวกเขาเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว,ก็ถือว่าเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว.

ขอเพียงพวกเขาภัคดีต่อสำนัก,เขาย่อมเป็นร่มเงาให้กับศิษย์ทุกคน,มีเพียงอย่างเดียวที่เขาต้องการคือแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น.

เจ้าสำนักเช่นนี้ในทวีปชิงหยุน,นับว่าหาได้ยากมาก!

อย่างไรก็ตาม.

สำนักไท่กู่เจิ้งในเวลานี้อาจจะไม่สถานที่ปลอดภัยเหมือนกัน.

เพราะว่าในเวลานี้ในมนทลเหอหยางได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น,เจ้าสำนักฉีซาน,หลังจากงานประลองจบแล้ว,ผ่านมาเครื่องเดือนแล้ว,ยังไม่กลับสำนัก.

เจ้าสำนักเหลียวและตัวตนระดับสูงของสำนักหายไปพร้อม ๆ กัน.

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา.

จะต้องมีเรื่องไม่ถูกต้องซ่อนอยู่อย่างแน่นอน.

“ข้าได้ยินมาว่า,หลังจากงานประลองจบลง,มียอดฝีมือหลายคนที่ไล่ตาม,ศิษย์ของสำนักระดับแปดต่างมนทลไป.”

“เจ้าสำนักเหลียวและคนของอีกหลายสำนัก,บางที่ได้ไปยังมนทลชิงหยางแล้วอย่างงั้นรึ?”

“เป็นไปไม่ได้,ข้าได้ยินข่าวมาว่า,พวกเขาขวางศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งเอาไว้ที่มนทลเหอหยาง.”

“เซียวจุ้ยจื่อแม้นว่าจะมีความแข็งแกร่งไม่เลว,ทว่าก็มีระดับศิษย์ยุทธ์เท่านั้น,ต่อหน้าเจ้าสำนักเหลียวที่มีระดับบรรพชนยุทธ์,แน่นอนว่าไม่มีพลังต่อต้านอย่างแน่นอน.”

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว,ไม่ใช่ว่าควรกลับมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว,เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?”

“เจ้าคิดว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งคนเดียวจะสังหารเจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น ๆได้อย่างงั้นรึ?”

“เวลานี้อาวุโสใหญ่ของสำนักได้สั่งให้ศิษย์จำนวนมากลงเขาไปสืบข่าวแล้ว.”

“ด้วยจำนวนและเส้นสายของพวกเขาคงจะได้ข่าวเร็ว ๆนี้.”

เรื่องของเจ้าสำนักระดับหกที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย,ทันใดนั้นกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนในมนทลเหออย่างพูดคุยกันเสียงดัง.

ทว่าจะพูดคุยกันมากมายเพียงใด,แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าคนเหล่านั้นจะตายไปด้วยสำนักไท่กู่เจิ้ง.

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจุนซ่างเซียวจะทำลายศพจนไม่เหลือหลักฐานแล้ว,ทว่าโลกนี้ยังมีอะไรที่พวกเขาไม่รู้,ผู้ฝึกยุทธ์ที่หลากหลายย่อมมีวิธีที่แปลกประหลาด,ไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีคนรู้ความจริงเป็นแน่.

และด้วยเหตุนี้,เขาจึงได้เตรียมแผนการตั้งแต่เนิ่น ๆนานแล้ว.

ขณะที่เหล่าคนมากมายที่ตามหาตัวกันวุ่นไปหมด,คนของหอฝนพรำก็แพร่ข่าวลือออกไป.

ข่าวลืออะไร?

ที่ป่าเขาของมนทลเหอหยาง,เกิดเหตการณ์บางอย่างขึ้นในทันที,มีของวิเศษที่น่าสงสัยปรากฏขึ้น.

ข่าวดังกล่าวนี้ได้ปรากฏขึ้น,ปรากฏผู้ฝึกยุทธ์มากมายที่บ้าคลั่ง,แม้แต่มีคนนำเรื่องของเจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น ๆที่หายไปมาเกี่ยวพันธ์กัน.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ปรารถนาความแข็งแกร่ง,ปรากฏการณ์ของ,สุดยอดของวิเศษที่ปรากฏขึ้นนั้น,เหล่าผู้ฝึกยุทธ์มากมายย่อมไล่ตามไปในทันที.

หลาย ๆ ครั้ง,ผู้คนมากมาย ไม่ลังเลที่จะสังหารกันและกัน.

มียอดฝีมือมากมาย,ที่ต้องพบกับความโชคร้ายในการไล่ล่าค้นหาของวิเศษ.

คนเหล่านี้,ปรารถนาคามแข็งแกร่ง,ต้องการของวิเศษ,แม้นว่าด้านหน้าจะเป็นหุบเขาลึกไร้ก้นบึ้ง,ก็พร้องจะกระโดดลงไปอย่างไม่ลังเล.

กล่าวอีกอย่างหนึ่ง.

จุนซ่างเซียวปล่อยข่าวลือเช่นนี้เพื่ออะไร?

แน่นอนว่าต้องการให้คนของมนทลชิงหยางเชื่อว่า,เจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น ๆที่หายไปเกี่ยวข้องกับการปรากฏตัวของ,สมบัติวิเศษ.

เป็นเช่นนั้นจริง ๆ.

เมื่อข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป,เหล่าชาวยุทธ์มากมายที่คาดเดากัน,ว่าเจ้าสำนักฉีซานและผู้ฝึกยุทธ์อีกหลายคนที่ไม่กับมานั้น,เป็นไปได้ว่าต้องการค้นหาสมบัติวิเศษ?

“ข้าได้ยินมาว่าสมบัติวิเศษนั้นปรากฏขึ้นที่หุบเขาแห่งหนึ่ง,ปรากฏเป็นรอยแยกบนพื้นปรากฏอุโมงค์ขึ้น,เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็หายไป!

“เช่นนั้น,เจ้าสำนักเหลียวและคนอื่น ๆพบทางเข้า,เลยเข้าไปหาของวิเศษ,ดังนั้นจึงไม่กลับมางั้นสิ!

“มีความเป็นไปได้ 80%

เหล่าชาวยุทธ์ไม่น้อยที่คล้อยตามแผนการปล่อยข่าวลือของจุนซ่างเซียว.

บางคนถึงกับพูดเป็นตุเป็นตะราวกับเห็นกับตาตัวเอง,นั่นไม่เท่ากับยอมรับข่าวลือเป็นความจริงหรอกรึ?

ต้องขออภัย,ในเมื่อจุนซ่างเซียวลงมือแล้ว,ย่อมหาทางแก้ไขวางแผนเอาไว้อย่างดีแล้ว,ไม่เช่นนั้นจะหลอกลวงคนเหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบได้อย่างไร?

ไม่ว่าของวิเศษนั้นจะมีจริงหรือไม่,การให้คนของมนทลชิงหยางพูดกันไม่หยุด,ท้ายที่สุดก็จะมีคนเชื่อเช่นนั้น.

หลังจากที่มีหลากหลายคนได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเจ้าสำนักฉีซานและคนจากหลากหลายสำนัก,แม้นว่าจะเต็มไปด้วยความสงสัย,ทว่าพวกเขาก็กับมุ่งมั่นที่จะหาสมบัติวิเศษนั่นแทน,แม้แต่ระดมกำลังค้นหาในป่าเขากันอย่างแข็งขัน.

จะด้วยเหตุผลใดตามที่พวกเขาคาดเดาเป็นจริงตามนั้นหรือไม่?,แต่คงไม่มีใครคิดได้ว่า,สำนักระดับแปดที่อยู่นอกมนทล,เป็นคนลงมือสังหารเจ้าสำนักเหลียวและคนของสำนักต่าง ๆได้อย่างแน่นอน.

 


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น