Strongest Sect of All Times Chapter 238 Qingyang Commandery, Ironbone Unyielding School
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 238 Qingyang Commandery, Ironbone
Unyielding School
青阳郡,铁骨铮铮派
จุนซ่างเซียวและเย่ซิงเฉิน
ทั้งสองที่เดินทางออกไปพร้อมกัน.
เขาไม่ได้นำศิษย์คนอื่น ๆไปด้วยเพราะว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้ยากอะไร,การนำคนไปมากมีแต่ทำให้เสียเวลา,ฝึกฝนอยู่ในสำนักดีกว่า.
หากสำนักต่าง
ๆในมนทลชิงหยางได้ยิน,ต้องโกรธเกรี้ยวอย่างแน่นอน.
นี่คือการแข่งขันที่พวกเขาจัดใหญ่ยิ่งกว่าการแข่งขันของมนทลชิงหยางซะอีก,ช่วยให้เกียรติพวกเขาหน่อย!
เกียรติแน่นอนว่าให้อยู่แล้ว.
ไม่เช่นนั้นแล้ว,จุนซ่างเซียวคงจะไม่นำศิษย์ไปเข้าร่วมด้วยตัวเอง.
มนทลปิงหยางอยู่ไกลเล็กน้อย,จุนซ่างเซียวที่นำพยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงออกมา,ขี่มันอย่างสบายใจ.
เย่ซิงเฉินที่รู้สึกเศร้าเป็นอย่างมาก,เขาต้องใช้ท่าเท้ามังกรข้ามสมุทรไล่ตามไป.
น่ารังเกียจ!
หากเปิ่นตี้มีอีกแร้งหยกฟ้าสวรรค์ล่ะก็,เพียงแค่สะบัดปีกครั้งเดียวก็ไปไกลกว่าพันลี้แล้ว,ไม่ถูกทิ้งอย่างนี้หรอก.
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถที่จะเอาเรื่องในอดีตมาเทียบได้.
เย่ซิงเฉินที่ได้แต่วิ่งตาม,ถัดจากนั้นหนึ่งวันก็มาถึงดินแดนพื้นที่มนทลปิงหยาง.
พื้นที่มนทลปิงหยางนั้นถือว่ากว้างใหญ่,มีความแข็งแกร่งกว่ามนทลชิงหยางมาก,ที่แห่งนี้มีทั้งสำนักเล็ก-ใหญ่กว่า
300 สำนัก,และยังมีนิกายระดับห้าสองแห่งอีกด้วย.
หนึ่งคือนิกายเห่าเย่ฟาง,อีกหนึ่งคือนิกายถิงอี้.
ใช่แล้ว,นิกายถิงอี้,เจ้านิกายน้อยที่ถูกจุนซ่างเซียวฉีกหน้าที่งานประมูลนั่นเอง.
บรรยากาศของมนทลปิงหยางนั้นถือว่ามีความปลอดภัยสูง,แม้นว่าจะมีสำนักมารด้วยเช่นกัน,ทว่าด้วยกลุ่มของสำนักฝ่ายธรรมมะจำนวนมาก,และปกคลุมไปทั่วมนทล,สำนักมารจึงยากจะกระทำการชั่วร้ายได้.
“วึ้ง วึ้ง!”
จุนซ่างเซียวที่นั่งบนพยัคฆ์หนุ่มอย่างสบาย,เอ่ยกล่าวออกมาเสียงเบา,”รู้สึกว่าพลังวิญญาณจะมากกว่ามนทลชิงหยาง.”
เย่ซิงเฉินเอ่ย,”มนทลชิงหยางนั้นเป็นดินแดนระดับเก้า,ย่อมไม่สามารถเทียบได้กับดินแดนระดับแปดได้.”
ระดับเก้า,ระดับแปดอย่างงั้นรึ?
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ,”ดินแดนต่าง
ๆมีการแบ่งระดับด้วยอย่างงั้นรึ?”
อะไรกัน,นี่เป็นเจ้าสำนักไม่รู้รึอย่างไร?
เย่ซิงเฉินเอ่ย,”ในทวีปชิงหยุนนั้น,ดินแดนต่าง
ๆก็มีการแบ่งแยกเหมือนกับระดับสำนัก,ไม่ได้แตกต่างกันแม้แต่น้อย.”
“ระดับเก้าต่ำสุดอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด.”
”......”
จุนซ่างเซียวที่ได้แต่เงียบ.
เขาถูกส่งมายังสำนักระดับเก้า,และดินแดนก็ยังอยู่ในระดับเก้าอีก,โชคเขาดีขนาดนี้เลยรึไง?
ระบบเอ่ย,”โฮสน์ไม่ได้บอกว่ายิ่งยากยิ่งท้าทายหรอกรึ?
เริ่มจากระดับต่ำสุด,ไม่ท้าทายรึอย่างไร?”
จุนซ่างเซียวคร้านจะโต้เถียงกับระบบ,จากนั้นก็มองไปยังเย่ซิงเฉินเอ่ยออกมาว่า,”ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้อะไรมากมาย.”
”......”
ข้อมูลถือว่าเป็นรากฐานที่สำคัญในการก่อสร้างสำนัก.
จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาอย่างมีความนัยน์,”ซิงเฉิน,เปิ่นจั้วรู้ดีว่า,ทุกคนต่างก็ต้องมีประวัติความเป็นมา.”
ในสำนัก,ไม่ได้คุยกันมากนัก,ตอนนี้มีเพียงสองคน,เขาจึงได้ใต่ถามออกมา.
เย่ซิงเฉินเอ่ย,”เช่นนั้นเจ้าสำนักเองก็มีประวัติความเป็นมาด้วยเช่นกันอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด.”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวตอบลับอย่างจริงจัง.
ตัวเขาที่มาจากต่างโลก,ไม่เคยเป็นเจ้าสำนัก,ไม่ได้รู้เรื่องของโลกนี้เท่าใดนัก!
“ที่จริง.”
จุนซ่างเซียวที่เปลี่ยนหัวข้อ”ทุกคนย่อมมีความลับของตัวเอง,ที่ฝังเอาไว้ในส่วนลึก,ไม่ให้คนอื่นได้รู้.”
เย่ซิงเฉินที่กลายเป็นเงียบ.
นี่เขารู้ความลับข้าอย่างงั้นรึ?
เป็นไปไม่ได้,การจุติกลับมาหลุดรอดจากวัฏจักรสังสารวัฏ,ใครจะคาดเดาเรื่องนี้ได้กัน?
แน่นอนว่าจะต้องหลอกล่อข้าอยู่แน่!
“ซิงเฉิน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ความลับของเจ้า,เปิ่นจั้วไม่สนใจจะรู้,ทว่าเจ้าควรจะจำเอาไว้ว่า,เป็นคนของสำนักไท่กู่เจิ้งวันหนึ่ง,ก็เป็นคนของสำนักไท่กู่เจิ้งตลอดชีวิต.”
เขาที่บังคับลากศิษย์คนนี้เข้าสำนัก,แน่นอนย่อมรู้ว่าภายในใจของเขาไม่ยอมรับ,จำเป็นต้องให้เวลาเพื่อชักจูงเขาช้า
ๆ.
“ทราบแล้ว.”
แม้นว่าปากจะเอ่ยเช่นนั้น,ทว่าภายในใจที่เผยท่าทางเหยียดหยัน.
หลายวันมานี้,แม้นว่าเขาจะแสดงผลงานออกมาอย่างดี,ไม่ได้แสดงอาการต่อต้าน,ทว่าเป้าหมายที่แท้จริงนั้นก็คือการได้รับทรัพยากรมา,ไม่ได้รู้สึกอะไรกับสำนักนี้เลยแม้แต่น้อย.
“ซิงเฉิน,เจ้ารู้จัก ตังตังตังตัง หรือไม่?”
“ตังตังตังตัง?”
“ตังตังตังตัง,มีเพียงตังตังตังตัง,เจ้าไปกับข้ามุ่งสู่ตะวันตก! มีเพียงเจ้า,ที่สามารถฆ่าอสูรกำจัดปิศาจ!”
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=LLCR4b10_X4&list=FLHhqJd6-Q1_PGiF_YjoAkXg&index=925
เย่ซิงเฉิน,” ......”
เขาที่กำหมัดแน่น.
จุนซ่างเซียวที่ร้องเพลงเสียงดัง,กล่าวอย่างเคร่งขรึม,”ซิงเฉิน,เจ้าคงรู้ความหมายของชื่อสำนัก,แน่นอนเจ้าต้องรู้แน่.”
เจ้าสำนัก.
เขาคิดที่จะทุบท่านให้ตายไปเลย!
......
การประลองสำนักในมนทลปิงหยางนั้น,จัดขึ้นที่เมืองสุ่ยหยาง.
แม้นว่าเมืองสุ่ยหยางจะไม่ใช่เมืองหลวง,ทว่าขนาดของมันนั้นกับใหญ่กว่าเมืองชิงหยางซะอีก.
พวกเขาเดินทางสองวันก็มาถึงสถานที่แข่งขัน,ซึ่งเวลานี้มีสำนักต่าง
ๆมากมาย,ที่ประตูเมืองมีเสียงดังจอแจ,ดูวุ่นวายเป็นอย่างมาก.
“อั๊ยยะ.”
ชายชราคนหนึ่งที่ยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า,”นั่นไม่ใช่เจ้าสำนักเหอซาน(กระเรียนภูเขา)หรอกรึ?
ไม่ได้พบกันนาน,ไม่คิดว่าพลังบ่มเพาะจะเติบโตถึงเพียงนี้!”
“เฮ้ เฮ้,เจ้าสำนักกง,ไม่ได้พบกันนานเลย!”
เจ้าสำนักเหอซานที่นำศิษย์เดินเข้ามาทักทาย.
เหล่ากลุ่มอิทธิพลต่าง
ๆที่กล่าวทักทายกันไปมาที่หน้าประตูเมือง,บรรยากาศราวกับงานเทศกาล.
“โฮกกกกก!”
ในเวลานั้น,เสียงคำรามดังกึกก้องโกรธเกรี้ยว,ทำให้ทุกคนตกใจต้องหันหน้าไปมอง.
พวกเขาที่เห็นบุรุษที่แต่งตัวโอ่อ่า,ขี่เสื้อดาวลายดำเดินเข้ามาช้า
ๆ.
“นี่มันเสือดาวลายดำ!”
“โอ้วสวรรค์,นี่มันสัตว์ร้ายที่มีระดับไม่ได้ด้อยกว่าศิษย์ยุทธ์ขั้นปลายเลย!”
“นายน้อยสำนักอี้โซว,สำนักระดับหก!”
“สำนักอี้โซวที่ควบคุมสัตว์ร้ายได้,แม้แต่ขี้เสือดาวลายดำได้ด้วย!”
“นายน้อยสำนักอี้โซวเดินทางมานี้,ต้องการเข้าร่วมงานประลองยุทธ์สำนักอย่างงั้นรึ?”
“งานประลองยุทธ์สำนักในครั้งนี้,จำกัดอายุไม่เกิน
20 ปี,ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้.”
ผู้คนที่กล่าวกระซิบกระซาบ,แววตาเผยความอิจฉา.
เจ้าสำนักน้อยที่ขี่เสือดาวลายดำ,และมีศิษย์เดินต่อแถวตามมา,ใบหน้าเผยความอหังการออกมา.
การขี้สัตว์ร้ายก้าวเดินมา,ทำให้เป็นที่จับตามอง,จ้องมองพวกเขาไม่วางตา.
“หืม?”
ในเวลานั้น,เจ้าสำนักน้อยต้องขมวดคิ้วไปมา.
เพราะว่ามีคนสองคนที่ยืนอยู่ไม่หันมามองเขาแม้แต่น้อย,ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน.
ไม่สนใจเขาอย่างงั้นรึ?
นี่กำลังดูแคลนข้ารึไง,ดังนั้นเขาจึงเอ่ยกล่าวออกมาเสียงดัง,”พวกเจ้าทั้งสอง,หยุดเดี๋ยวนี้.”
“โฮกกกก!”
เสือดาวลายดำที่ราวกับเข้าใจความต้องการของเจ้านาย,คำรามดังและก้าวเข้าไปหาคนทั้งสอง.
เสียงที่ดังกึกก้อง,ผู้ฝึกยุทธุทั่วไปจะต้องสั่นสะท้านอย่างแน่นอน.
ในเวลานั้น,ผู้คนมากมายจ้องมองไปยังคนทั้งสอง,ที่เจ้าสำนักน้อยสำนักอี้โซวก้าวเข้าไปหา.
เซ็งแซ่.
กล้ายืนอยู่ต่อหน้าเสือดาวลายดำ,ใจกลางจริง ๆ!
“มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?”
คนทั้งคู่ที่หยุด,หันกลับเผยยิ้ม,จ้องมองออกไป,แน่นอนว่าคือกลุ่มของเจ้าสำนักจุนนั่นเอง!
อีกคนก็คือเย่ซิงเฉินนั่นเอง.
เห็นท่าทางไม่แยแส,เจ้าสำนักน้อยที่เผยความโกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที.
ข้าขี้เสือดาวลายดำเข้ามา,ทุกคนต่างจับตามอง,นี่พวกเจ้าไม่รู้สึกน่าเกรงขามบ้างเลยรึอย่างไร?
หรือว่าเป็นยอดฝีมือ?
เจ้าสำนักน้อยที่กล่าวสอบถามลองเชิง,”พวกเจ้าไม่เคยเห็นเลย,ไม่รู้มาจากสำนักใด?”
“มนทลชิงหยาง,สำนักไท่กู่เจิ้ง.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
คนอื่น ๆที่ได้ยิน,แววตาเผยความตกใจ,และเริ่มพูดคุยกัน.
“สำนักไท่กู่เจิ้ง จากบ้านนอกคอกนานี่เอง.”
“ได้ยินมาว่าเป็นสำนักระดับแปดเพิ่งได้เลื่อนขั้นเร็ว
ๆนี้?”
“มายังเมืองสุ่ยหยาง,คงมาชมการแข่งขันเพื่อความสนุกอย่างงั้นรึ?”
ได้ยินเสียงของทุกคนพูดคุยกัน,พอได้ยินคำว่าสำนักระดับแปด,เจ้าสำนักน้อยก็เผยท่าทางดูถูกออกมาทันที,”ไอ้หนู,ไม่เห็นรึอย่างไร?
ว่าพวกเจ้าขวางทางนายน้อยผู้นี้ อยู่ในเวลานี้?”
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น