Strongest Sect of All Times Chapter 232 Cut grass!
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 232 Cut grass!
割草!
จุนซ่างเซียวให้ศิษย์ปลอมตัวเป็นคนของหออินทรีย์ดำ,เนื่องจากอยู่ในเวลากลางคืน,ทำให้ยากจะแยกแยะได้อย่างชัดเจน.
หยางจื่อที่พบความผิดประติ,ขณะจะเอ่ยปาก,ก็ถูกหลี่ลั่วฉิวสังหารไปในทันที.
ร่างของหยางจื่อที่ล้มลงพื้น,เล่ยเห่ยซาและศิษย์ที่กลายเป็นงงงวย.
พรึด ซี่!
เหล่าศิษย์ที่แสร้างตายลุกขึ้นถืออาวุธพร้อมต่อสู้.
“ศิษย์ทุกคนรับคำสั่ง.”
เสียงของจุนซ่างเซียวที่ดังก้อง,”สังหารคนสำนักมารให้หมด.”
“รับทราบ!”
ทุกคนที่ระเบิดพลังวิญญาณ.
แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีจำนวนมากกว่า,จำนวนกว่า 300
คน,ก็หาได้มีความหวาดกลัวไม่.
“เจ้าสาม!”
เล่ยเห่ยซาที่ตะโกนเสียงดัง,”นี่มันหมายความว่าอย่างไร!”
ไอ้เจ้านี้มันไม่มีสมองรึไง,ไม่รู้รึไงว่าต้องทำอย่างไร,ให้ตัวเองนำศิษย์ลงมาจากเขาและติดกับดักไปเรียบร้อยแล้ว.
หลี่ชิงหยางที่ปลอมตัวเป็นรองเจ้าหอ,กวาดตามองรอบ
ๆ,ก่อนที่จะแผ่พลังวิญญาณไปยังกระบี่หานเฟิง.
เล่ยเห่ยซาจ้องมองด้วยแววตาเย็นชา,”เจ้าไม่ใช่เจ้าสาม!”
“เจ้าสามรึ?”
“เจ้าหมายถึงใครรึ?”
ลี่ชิงหยางที่เตะศพหนึ่งลอยออกไป.
เล่ยเห่ยซาที่จดจ้องมองไปยังศพดังกล่าว,แววตาที่เผยความโกรธเกรี้ยวออกมา.
“พรึดซี่!”
ในเวลานั้น,ได้ยินเพยงเสียงของกระบี่ทะลวงร่าง.
ในมือของงูพิษถือกระบี่ทะลวงอกของศิษย์หออินทรีย์ดำ.
ก่อนหน้านี้เพราะว่าได้รับบาดเจ็บเพราะลี่ซ่างเทียนจึงไม่ได้ลงมือเลย,ตอนนี้เขาจึงต้องการปลดปล่อยเป็นอย่างมาก.
เมื่อศิษย์หออินทรีย์ดำคนแรกถูกสังหาร,การต่อสู้ของสองสำนักก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ.
พลังวิญญาณที่คละคลุ้ง,ทั้งสองฝั่งพุ่งเข้าโจมตีกันและกัน.
ฝั่งหออินทรีย์ดำมีคนมากกว่าแน่นอน,ปรกติแล้วย่อมต้องเหนือกว่า,ทว่าเมื่อต่อสู้ไปแล้ว,สำนักไท่กู่เจิ้งกับแข็งแกร่งกว่า.
โดยเฉพาะ,กลุ่มของจางเหว่ยที่เวลานี้แทบจะลงมือเพียงแค่กระบวนท่าเดียว
ก็สังหารอีกฝั่งได้แล้ว.
“พรึดซี่!”
“พรึดซี่!”
ริ้วแสงคมกระบี่เป็นประกาย,ชิ้นส่วนร่างกายที่ลอยเคว้งกลางอากาศ.
เพียงแค่เริ่มสู้,ศิษย์หออินทรีย์ดำก็ตายไปกว่าสามสิบคนแล้ว.
ด้วยความแข็งแกร่งและอุปกรณ์ที่เหนือกว่า,ถึงอีกฝ่ายจะมีจำนวนมากกว่า,ก็ไม่ต่างจากลุ่มวัชพืช.
และยิ่งตกตายไปมากเท่าไหร่ความได้เปรียบก็จะยิ่งน้อยลง.
ศิษย์หออินทรีย์ดำที่ตายคนแล้วคนเล่า,เพราะว่ามีอาวุธลับที่ลอบโจมตีพวกเขาด้วยไปด้วย.
สมาชิกหอฝนพรำ,ที่ราวกับปิศาจวิ่งผ่านสนามรบ.
ด้วยทักษะมือสังหาร,เป็นไปไม่ได้ที่ศิษย์ทั่วไปของหออินทรีย์ดำจะต้านทานได้.
ทั้งริ้วปราณกระบี่,ปราณหอก,อาวุธลับสาดกระจายในสนามรบ,เหล่าศิษย์หออินทรีย์ดำถูกสังหารอย่างโหดร้าย,ตกตายคนแล้วคนเล่า.
เล่ยเห่ยซานที่ยืนนิ่งอยู่กับที่.
เขายังไม่ได้ลงมือ,สายตายังคงจับจ้องมองไปยังหลี่ชิงหยาง,แววตาที่เผยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา.
คนในครอบครัวถูกสังหาร,แน่นอนว่าเวลานี้ยากจะอดทนเอาไว้ได้.
“ฟู่ ฟู่!”
หมัดทั้งสองข้าง,เวลานี้มีแสงสีแดงโลหิตไหลผ่าน,ปราณหยินที่รุนแรงกำลังแผ่ออกมา.
“เฮ้.”
เย่ซิงเฉินเดินเข้ามา,ยืนอยู่ตรงข้ามเขา,เอ่ยด้วยความอหังการ,”คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า.
“ศิษย์น้อง,มอบให้เจ้า.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย,”ข้าจะไปจัดการคนอื่น.”
กล่าวจบ,เขาก็พุ่งเข้าไปยังกลุ่มฝ่ายตรงข้าม,ไล่ล่าสังหารอย่างบ้าคลั่ง.
โจวหงเอ่ยก็เข้าสู้สนามรบแล้วเช่นกัน.
เขาที่ราวกับเดินเล่นในทุ่งหญ้า,เพียงลมหายใจเดียวที่ชักกระบี่ออกมา,ศิษย์หออินทรีย์ดำก็ล้มลงกับพื้นหลายสิบคน,ที่รอคอปรากฏรอยกระบี่เล็ก
ๆ ขึ้น.
กระบี่ที่รวดเร็ว,ไม่แม้แต่มองเห็น!
“ซี่ ซี่.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”คงไม่ต้องมาถึงข้า,พวกเขาคงจะสามารถจัดการศิษย์หออินทรีย์ดำได้ทั้งหมดแล้ว.”
ความแข็งแกร่งของสำนักไท่กู่เจิ้งที่แสดงออกมา,น่ากลัวหรือไม่?
น่ากลัวมาก!
ศิษย์หออินทรีย์ดำที่เริ่มสั่นสะท้านหวาดกลัว.
พวกเขาเริ่มตระหนักได้ว่า,อีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งจนเกินไป,โดยเฉพาะโจวหงเพียงแค่ก้าวเข้ามาใกล้
คนของพวกเขาก็ตายไปหลายสิบคน,เรื่องเช่นนี้เป็นไปได้ด้วยรึ?
การต่อสู้ในสนามรบ,ขวัญกำลังใจถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก.
ตอนนี้,เมื่อเห็นเหล่าสหายเพื่อนพ้องของตัวเองตกตายลง,หออินทรีย์ดำก็ยิ่งเสียเปรียบขึ้นเรื่อย
ๆ.
ในเวลานั้น,ลี่ชิงหยาง,เซียวจุ้ยจื่อที่เร่งโจมตี,ทุกพื้นที่ที่พวกเขาเดินผ่าน,ต้องสังหารอีกฝ่ายให้ตกตายไปในทันที.
เจ้าสำนักได้สั่งออกไปแล้ว,จะต้องสังหารสำนักมารให้หมด,ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางที่จะปล่อยให้อีกฝ่ายได้หนีไปได้!
คนของหออินทรีย์ดำที่เริ่มหวาดผวากับพลังของฝ่ายตรงข้าม,ตอนนี้ถูกดันให้ถอยหลังชิดเข้าหากันแม้แต่ร่วมมือกันป้องกันการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม.
ปัง! ปัง! ปัง!
หยางยูหัวที่ยกโล่เหล็กกล้าขึ้น,พร้อมกับพุ่งราวกับกระทิง,กระแทกพวกเขาหลายสิบคน,ทำให้แนวป้องกันของพวกเขาแตกกระจัดกระจาย.
หลงจื่อหยางและอีกหลายคนถือหอกผู้พิชิต,ทะลวงร่างศิษย์หออินทรีย์ดำที่ลอยเคร้งควบคุมตัวเองไม่ได้.
แทบจะในทันที,ชิ้นส่วนต่าง
ๆที่ลอยเคว้งขึ้นบนอากาศ.
น่าเสียดายที่เป็นเวลากลางคืน.
หากเปลี่ยนเป็นเวลากลางวัน,ภาพที่เห็นคงน่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก.
ศิษย์หออินทรีย์ดำ,เวลานี้ที่หวาดกลัวอย่างหนัก,สั่นราวกับหนู,วิ่งวนไปทั่วเพื่อจะหาทางรอด.
แต่กระนั้น,เพราะสำนักไท่กู่เจิ้งล้อมกรอบพวกเขาเอาไว้,จึงไม่มีเส้นทางที่จะให้พวกเขาได้หลบหนี.
หัวหน้าหน่วยคนหนึ่งที่ไม่ต้องการรอความตาย,เตรียมที่จะสู้ตาย,คำรามออกมาเสียงดัง,”ฆ่า......”
“ปัง!”
หน้าผากของเขาถูกกระสุนยิงทะลุทันที,ก่อนที่จะล้มลงพื้นเสียงดัง.
หลี่ลั่วฉิวที่อยู่บนต้นไม้,ที่มุมปากเผยยิ้ม,กล่าวออกมาว่า,”ใครที่มันใจสู้ต้องโดนเก็บ.”
ตูมมม! ตูมมมม!
หยางยูหัวที่ยกโล่เหล็กกล้า,และยังใช้ผนึกเจี่ยหยินปกคลุมร่างกาย,กลายเป็นเหมือนกับนักสู้วัวกระทิง,พุ่งเข้าชนกลุ่มศิษย์หออินทรีย์ดำอย่างบ้าคลั่ง.
หลงจื่อหยางและคนอื่น
ๆที่วิ่งตาม,กระบี่และหออันคมกริบ,ฉวยโอกาสโจมตีทันทีที่อีกฝ่ายเสียหลัก.
ผ่านมาเพียงสี่ห้าลมหายใจ ฝ่ายตรงข้ามถูกสังหารไป
50-60 คน!
หากนับจำนวนอย่างระเอียด.
เพียงเวลาสั้น ๆ,ศิษย์หออินทรีย์ดำที่มีจำนวน
300 กว่าคน,ตายไปแล้วกว่า 100 คน.
ศพที่นอนเคว้งกระจัดกระจาย,ราวกับโรงเชือด!
จุนซ่างเซียวเอ่ยเสียงเบา,”ด้วยความสามารถของพวกเขา,ครึ่งชั่วโมงน่าจะจัดการเรียบร้อย.
กล่าวจบ,เขาก็หันไปมองฝั่งของเล่ยเห่ยซา.
ศิษย์ของตัวเองถูกสังหารคนแล้วคนเล่า,เขายังคงยืนอยู่อย่างสุขุม,ริ้วแสงสีแดงโลหิตที่กำลังหมุนวนอยู่รอบ
ๆ หมัดกำลังกลายเป็นสีแดงโลหิตมากขึ้นเรื่อย ๆ.
เย่ซิงเฉินที่ยักไหล่,กล่าวเหยียดหยัน,”เป็นทักษะรวบรวมพลังอย่างงั้นรึ?”
รู้ด้วยรึ?
รู้แล้วอย่างไร,ตอนนี้การรวบรวมพลังก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว!
“กึก!”
เล่ยเห่ยซาที่เต็มไปด้วยความโกรธ,หมัดของเขาที่มีแสงสีแดงโลหิตพุ่งออกไป,พร้อมกับคำรามดังกึกก้อง,”วันนี้,เจ้าต้องตาย!”
ครืนนน!
หมัดของเขาที่ดังกึกก้องต่อยไปในอากาศ.
ฟู่ ฟู่!
สนามวายุที่ระเบิดพัดออกไปทุกที่,ปราณปิศาจที่ลอยฟุ้งไปหมด
เห็นเพียงที่ด้านหน้าหมัดของเขา,แสงสีแดงที่รวมเข้ากับความว่างเปล่า,สร้างเป็นหมัดอากาศพุ่งออกไป,ยังศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งด้านหลัง.
เขาไม่ได้โจมตีไปยังทิศทางของเย่ซิงเฉิน,หากแต่ปล่อยพลังที่น่ากลัวนี้,เพื่อสังหารศัตรูจำนวนมากแม้แต่จัดการคนของตัวเองไปพร้อม
ๆกันด้วย!
“ฟู่ ฟู่!”
หมัดอากาศสีแดงขนาดสามเมตร,ราวกับภูเขาย่อม
ๆพุ่งออกไป,ครูดพื้นดินเป็นร่องยาว,เห็นชัดเจนว่าการโจมตีนี้ทรงพลังมาก.
พลังที่หนักหน่วงรุนแรง,และยังคงพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง.
ศิษย์ของหออินทรีย์ดำที่ใบหน้าเปลี่ยนสีจดจ้องมองตาค้าง.
ฟิ้ว!
เซียวจุ้ยจื่อที่พุ่งออกมา,ก่อนที่จะยกโล่เหล็กกล้าขึ้น.
แส่หาความตาย!
เหล่ยเห่ยซาที่แค่นเสียงดูแคลน.
เขาที่รวบรวมพลังอยู่นาน,ก่อนจะใช้หมัดระเบิดโลหิตออกไป,พลังของมันรุนแรงกว่า
100,000 จิน,อีกฝ่ายที่ดูแล้วควรจะมีระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นหนึ่ง,กับโล่จะสามารถทนได้อย่างงั้นรึ?!
“ตูมมมมมม!”
หมัดระเบิดโลหิตกระแทกไปยังโล่เสียงดังกึกก้อง.
ทันใดนั้นแววตาของเล่ยเห่ยซาที่ค่อย
ๆเบิกกว้างกลมโต,เผยท่าทางหวาดผวาตกใจเป็นอย่างมาก!
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น