Strongest Sect of All Times Chapter 209 Wish their good luck 【Fourth】
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 209 Wish their good luck 【Fourth】
祝他们好运吧【第四更】
ด้วยการใช้แต้มสนับสนุนหลายร้อยแต้ม,ท้ายที่สุดก็รีเฟรซได้หอคอยเก็บประสบการณ์.
แม้นว่าจะจ่ายออกไปไม่น้อย,ทว่าก็ได้ สินค้าขยายขนาดแม็กกาซีน,ทักษะพลังป้องกัน,และสินค้าทั่วไปอีกหลายอย่าง,โดยจ่ายไปเพียงร้อยกว่าแต้ม.
ในความเห็นของเจ้าสำนัก,รู้สึกไม่ไม่ขาดทุนแต่อย่างใด!
และเป้าหมายที่ต้องการยังได้รับมาด้วย.
ระบบเอ่ย,”หอคอยเก็บประสบการณ์นั้นมีขนาดใหญ่,ปรกติก็มีเก้าชั้นแล้ว,ดังนั้นแนะนำโฮสน์นำออกมาในพื้นที่กว้าง.”
“โอ้ว.”
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดและหาพื้นที่วาง.
ท้ายที่สุดก็ได้ใช้บริเวณหลังเขา.
เขาที่คิดจะพัฒนาในเร็ว
ๆนี้,ดังนั้นการนำหอคอยเก็บประสบการณ์ไปวางถือว่าเหมาะสบการณ์.
เช้าวันถัดมา.
จุนซ่างเซียวที่ก้าวมาถึงด้านหลังเขา,ในเวลาเช้าตรู,จ้องมองพื้นที่รอบ
ๆอย่างระมัดระวัง,ก่อนที่จะนำหอคอยเก็บประสบการณ์ออกมา.
ปรากโหกคอยเก้าชั้น,ที่มีขนาดเล็กกระจิดริด.
จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก,”มีขนาดเท่านี้ยังต้องหาพื้นที่ด้วยอย่างงั้นรึ?”
ระบบเอ่ย,”มันได้ฝังจมอยู่ในพื้นและจะค่อย
ๆงอกขึ้นมาเหมือนกับพืชพรรณ.”
“โอ้ว.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาจ้องมองไปยังเจดีย์ที่ยังคงเป็นเหมือนกับต้นกล้า.
หอคอยเก็บประสบการณ์ที่กำลังสั่นไหว,พื้นดินสั่นไปมา,ก่อนที่จะผุดขึ้นจากพื้นดิน,ส่องประกายแสงวับวาว,ขยายขนาดอย่างรวดเร็ว.
ชั่วระยะเวลาต่อมา.
เจดีย์ขนาดความกว้าง 20 เมตร,และความสูงราว ๆ ร้อยเมตร,มีเก้าชั้นปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของเขา.
“เฮ้ย!”
จุนซ่างเซียวถึงกับต้องแหวนหน้ามอง,กล่าวด้วยความตกใจ,”สูงขนาดนี้เลยรึ?!”
......
“เอ๊ะ?ดูนั่นเร็วเข้า,นั่นมันอะไร!”
“คงจะเป็นหอคอย!”
“แปลกมา,เมื่อวานยังไม่มี,แล้วมันมาได้อย่างไร!”
แม้แต่ลานด้านนอก,ศิษย์ที่เตรียมตัวทำกายบริการ,พบว่าจู่
ๆก็ปรากฏหอคอยออกมา,ต่างก็ตื่นตกใจกัน.
“ศิษย์พี่รอง.”
ซูเซียวโม่ที่สะดุ้งตกใจ,”สิ่งนั้นเหล่านายช่าง สร้างขึ้นมาอย่างงั้นรึ?”
“ไม่.”
ใบหน้าของหลี่ชิงหยางที่กลายเป็นโง่งมไปเหมือนกัน.
“ไป,ไปดูกัน.”
เหล่าศิษย์ที่ไม่ทำกายบริหาร,ต่างส่งเสียงเจี้ยวจ้าวมุ่งไปยังหลังเขาทันที,ท้ายที่สุดพวกเขาก็พบกับหอคอยที่ใหญ่โตปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า.
เย่ซิงเฉินที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอาย,จิตใจสั่นไปมา,”หอคอยวิเศษ!”
อดีตราชันย์รัตติการที่มีประสบการณ์มากมาย,ย่อมรับรู้ได้!
ที่ทางเข้าของหอคอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ปิดอยู่,เค้าโครงประตูที่ที่ป้ายเครื่องหมายอักขระสลักอยู่,”หอคอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์”
ดูลึกล้ำแปลกประหลาด.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น,ชั้นหนึ่งของหอคอยก็เปล่งแสง,เสียงที่หนักอึ้งเก่าแก่ส่งเสียงออกมา,”จุนซ่างเซียว,ท้าทายหอคอยเก็บประสบการณ์ชั้นที่หนึ่ง.”
เจ้าสำนักเข้าไปด้านในอย่างงั้นรึ?
เหล่าศิษย์ที่เงยหน้าขึ้นมอง,เห็นหน้าต่างชั้นที่หนึ่งส่องประกายแสง,ทว่าแสงที่เจิดจ้านั้นทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดเลย.
“หอคอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์?”
เย่ซิงเฉินที่ลอบคิดในใจ,”คงจะเหมือนลานฝึกฝนของสำนักใหญ่,ที่มีไว้ให้ศิษย์เก็บเกี่ยวประสบการณ์?”
ไม่ผิด.
ชื่อและรูปแบบอาจจะแตกต่างกันบ้าง,ทว่าเป้าหมายเหมือนกัน.
ลู่เชียนเชียนเองก็มา.
นางที่อยู่ใต้ต้นไม้,ลอบคิดในใจ,”คงจะเหมือน,ค่ายกลเก็บประสบการเหมันตร์ของนิกายไท่เสวียนเซิ่ง?”
......
เพราะว่าต้องการรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น,ศิษย์ทุกคนจึงได้รอคอยอยู่ด้านนอก.
บางทีคงผ่านไปราว ๆหนึ่งชั่วโมง,หอคอยด้านในที่ส่องประกายแสงเล็กน้อย,พร้อมกับเสียงที่เคร่งขรึมก็ดังขึ้น,”จุนซ่างเซียว,ท้าทายสำเร็จ!”
“เจ้าสำนักทรงพลังมาก!”
“เจ้าสำนักแข็งแกร่งจริง ๆ!”
แม้นว่าจะไม่รู้ว่าคืออะไร,ทว่าเมื่อได้ยินคำว่าท้าทายและประสบความสำเร็จ,ก็ต้องเชียร์เป็นเรื่องธรรมดา!
“กึก ซี่!”
ในเวลานั้น,ประตูหอคอยที่ปิดอยู่ก็เปิดออกมา.
จุนซ่างเซียวที่ยกมือพยุงประตู,ขาสั่นไปมาขณะเดินออกมา,ใบหน้าที่เหนื่อยล้าสุด
ๆ.
เซียวจุ้ยจื่อที่วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว,พยุงแขนของเจ้าสำนักเอาไว้,”เจ้าสำนัก,เป็นอะไรหรือไม่?”
จุนซ่างเซียวที่ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปาดเหงื่อ,ที่มุมปากกระตุกเอ่ยออกไปว่า,”...ที่จริงมันสุดยอดจริง
ๆ!”
“เจ้าสำนัก.”
ซูเซียวโม่ที่เอ่ยสอบถาม,”มันคือหอคอยอะไร?”
“อยากรู้?”
จุนซ่างเซียวกล่าวเสียงเบา,”เข้าไปดูเอง.”
“เข้าไปได้รึ?”
ซูเซียวโม่ที่เผยท่าทางดีใจ,ประตูที่ยังคงเปิดอ้า,เขาพุ่งเข้าไปในทันที.
หลี่ชิงหยาง,ลี่เฟยและเถียนซี่ที่ตามเข้าไป,ต้องไม่ลืมว่าที่ด้านหน้ามีอักษรเขียนไว้ว่า,หอคอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์,ก็คงมีความหมายตามนั้น.
เย่ซิงเฉินและลู่เขียนเชียน
ครุ่นคิดครู่หนึ่ง,และก้าวเข้าไป.
“เจ้าสำนัก.”
เซียวจุ้ยจื่อที่พยุงเจ้าสำนักไปนั่งที่โขดหิน,และเก้าศีรษะ
กล่าวออกไปว่า,”ข้าก็ขอเข้าไปด้านใน.”
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ,”เข้าไปได้.”
“ฟิ้ว!”
เซียวจุ้ยจื่อที่วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว,ด้วยเกรงว่าจะล่าช้ากว่าคนอื่น.
หลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามา,เอ่ยกล่าวด้วยความสนใจ,”หอคอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์นี้ไม่ธรรมดาอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ธรรมดาจริง ๆ.”
จุนซ่างเซียวที่หายใจหอบ ๆ.
หลี่ลั่วฉิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม,”เจ้าสำนักเข้าไป,กลับออกมาด้วยสภาพเช่นนี้,บางที่คงน่าเกรงขามมาก.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”หอคอยเก็บเกี่ยวประสบการ,หากต้องการประสบการณ์,ความร้ายกาจไม่มีความหมายใด
ๆ.”
หลี่ลั่วฉิวที่ส่ายหน้าไปมา.
นางที่ลอบอธิบายให้กับศิษย์ที่เข้าไป,ขอให้กลับออกมาครบสามสิบสองส่วน.
“กึก ซี่!”
ทางเข้าหอคอยที่ปิดลง,เสียงที่ดังกึกก้อง.
เสียงที่สั่นสะเทือนไปทั่วลาน,”หอคอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์,เปิดใช้งาน!”
......
ที่ด้านใน.
ตั้งแต่ทางเข้าปิดลง,พื้นที่รอบ ๆ มืดครึ้ม,ทันใดนั้นก็ส่องประกายแสงสว่างจ้า.
หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น
ๆที่จดจ้องมองและก้าวเดินไปด้านหน้า.
“ไป.”
ทุกคนที่ก้าวตามไป,ร่างกายที่ขยับไปอย่างระมัดระวัง,ด้วยเกรงว่าจะมีอะไรพุ่งมา.
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ศิษย์พี่,ข้าขยับไม่ได้!”
ศิษย์หลายคนที่ร้องออกมาเสียงดัง.
เพียงไม่นานหลังจากนั้น,ร่างกายของพวกเขาที่คล้ายกับเสียจิตใจไป.
ก่อนที่จะพบว่าพวกเขาได้มายืนอยู่ที่ด้านในแล้ว!
สายตาของทุกคนที่ส่ายไปมา.
ในเวลานั้นเหล่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังได้อุทานออกมาเสียงดัง.
“ศิษย์พี่รอง,”ซูเซียวโม่ที่กล่าวเสียงสั่น,”ทำไมร่างของท่านถึงได้โปร่งแสงกัน....”
ในเวลานั้นทุกคนที่หยุด,เพราะว่าเริ่มตระหนักได้ว่าตัวเองก็โปร่งแสงเหมือนกับคนอื่น
ๆ.
กล่าวตามจริง.
ศิษย์ทุกคนที่ก้าวออกมาจากทางเข้า,ต่างก็เป็นเหมือนกัน.
“จ้องมองไปยังด้านหลังเร็วเข้า!”ลี่เฟยที่อุทานออกมาเสียงดัง.
สายตาของทุกคนที่หันหน้าไปเหมือน ๆ กัน.
ที่ตำแหน่งทางเข้า,มีคนมากมายที่ยืนอยู่และร่างของตัวเองก็ยืนแข็งอยู่ด้วย.
“นี่มัน......”
หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆที่เผยท่าทางงงงัน.
เห็นร่างของตัวเองที่ยืนนิ่ง,ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันน่าพรั่นพรึงขนาดใหน.
นอกจากนี้ร่างของพวกเขาที่อยู่ที่ทางเข้า,แล้วพวกเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้คืออะไร?
ทุกคนที่รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาทันที.
นี่มันหมายความว่าอย่างไร!
เย่ซิงเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา,กล่าวออกมาว่า,”พวกเราตอนนี้อยู่ในภาวะร่างจิตวิญญาณ.”
“ร่างจิตวิญญาณ?”ทุกคนที่ยืนอึ้ง.
เย่ซิงเฉินเอ่ย,”หากข้าเดาไม่ผิด,หอคอยฝึกฝนนี้จะสะกดกายเนื้อพวกเราไว้และส่งร่างจิตวิญญาณออกมาหาประสบการ.”
ด้วยการอธิบายเช่นนี้,ทำให้ทุกคนเข้าใจในทันที.
ที่ยืนอยู่ด้านหลังคือกายเนื้อของพวกเขา,ตอนนี้คือร่างจิตวิญญาณ!
นี่มัน....น่าเกรงขามเกินไปแล้ว!
ไม่ว่าจะเป็นกายเนื้อหรือกายจิตวิญญาณ,เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องก้าวต่อไป.
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ก้าวตามกันไป.
“ฟิ้ว!”
ที่ด้านนอก,เสียงของกลุ่มคนที่ดังเจี้ยวจ้าว,ทันใดนั้นประกายแสงที่สว่างวับวาว,เสียงโบราณที่ดังขึ้น,”ศิษย์ห้าสิบสามคน,ท้าทายหอคอยเก็บประสบการณ์ด้านนอก.”
“เริ่มแล้ว.”
จุนซ่างเซียวที่นึกถึงตัวเอง,ก็รู้สึกสั่นสะท้านไปเหมือนกัน,ทว่าเขาที่เผยยิ้มเจ้าเล่ห์,”เด็ก
ๆ,ถึงเวลาแสดงความสามารถแล้ว!
รอยยิ้มที่คล้ายกับยินดีกับความโชคร้ายของคนอื่น
!
หลี่ลั่วฉิวที่ส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกไปว่า,”ขอให้พวกเจ้าโชคดี.”
……
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น