Strongest Sect of All Times Chapter 192 Thorny Fire Dragon Beast!( Repairs)
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 192 Thorny Fire
Dragon Beast!( Repairs)
棘手的火龙兽!(修)
ก่อนหน้านี้ในพื้นที่แห่งหนึ่ง,พบกับสัตว์ร้ายที่ยากจะจัดการ,จุนซ่างเซียวตัดสินใจถอยทัพอย่างไม่ลังเล.
ทว่ามังกรเพลิงตนนี้เกี่ยวข้องกับภารกิจมหากาพย์เขาจึงต้องจัดการมันให้ได้!
จากความร้อนที่แผ่ออกมานั้น,แน่นอนว่าต้องเป็นสัตว์ร้ายระดับสูงขั้นที่ห้า,ไม่มีทางที่เขาจะนำศิษย์ทุกคนเข้าไปได้,ไม่เช่นนั้นอาจจะมีคนถูกสังหารได้.
“เชียนเชียน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้านั่นตัวใหญ่ขนาดใหน?”
“เจ้าสำนัก,เป็นมังกรเพลิงที่โตแล้ว อย่างน้อยก็มีความสูงสี่จั้ง.”หลี่ชิงหยางเอ่ย.
หนึ่งจ้างเท่ากับสามเมตรกว่า,สี่จั้งก็มีความสูงราว
ๆ 12 เมตร,นับว่าสูงไม่ธรรมดา,มังกรเพลิงตัวนี้คงเทียบได้กับตึกสูงสี่ชั้นได้เลย
อ๊าก!
ด้วยร่างกายที่ใหญ่โต,แน่นอนว่าจะต้องแข็งแกร่งมาก!
“ดูจะจัดการยากเล็กน้อย.”จุนซ่างเซียวขมวดคิ้วแน่น.
ระบบเอ่ย,”เกี่ยวกับการคำนวณเทียบผู้ฝึกยุทธ์ระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นที่ห้า,ความแข็งแกร่งของสัตว์ร้ายมังกรเพลิงตนนี้น่าจะมีความแข็งแกร่งอย่างต่ำห้าแสนจิน.”
ห้าแสนจิน,และยังเป็นขั้นต่ำอีก!
ที่มุมปากของจุนซ่างเซียวถึงกับกระตุกไปมา.
ระบบเอ่ย,”นี่เพียงการประเมินขั้นต้น,ไม่ได้นำคุณสมบัติเปลวเพลิงเข้ามาคำนวนด้วย,ดังนั้นโฮสน์นำกลุ่มศิษย์เข้าไปมีโอกาสถูกสังหารทั้งกลุ่ม
99 %.”
“โอกาสชนะ 1%”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ระบบ,” ......”
โฮสน์ไม่ได้ยินรึ?
ความหมายของข้าคือถูกสังหารทั้งกลุ่ม?
จุนซ่างเซียวได้ยินอย่างแน่นอน,ทว่าสมองของเขาเวลานี้กำลังคิดอย่างบ้าคลั่ง,ว่าจะจัดการมังกรเพลิงอย่างไร.
“โจวหง,เจ้ามีความมั่นใจจะสังหารมันได้หรือไม่?”
“ไม่เลย.”โจวหงที่กล่าวออกมาอย่างไม่ลังเล.
หากเป็นสัตว์ร้ายระดับสูงขั้นสองหรือสาม,เขายังพอมั่นใจ,ทว่านี่มังกรเพลิงระดับสูงขั้นห้า,มีแต่ต้องวิ่งหนีเท่านั้นล่ะ.
กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งทรงพลังแท้จริง,ความต่างชั้นที่กว้างใหญ่,ไม่มีอะไรที่จะถมมันให้เต็มได้เลย.
โจวหงเอ่ย,”เจ้าสำนัก,หากให้เวลากับข้า,เมื่อข้าสำเร็จวิชาลับแล้ว,ย่อมสามารถสังหารมันได้.”
“ใช้เวลาเท่าไหร่?”
“ใช้เวลาหนึ่งเดือน.”
”......”
เจ้าสำนักจุนที่ปากกระตุกไปมา.
หากเขารู้ก่อนนห้านี้ล่ะก็,คงมอบเพลงกระบี่ลับเทพเหมันตร์ให้อีกฝ่ายตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว!
“ดูเหมือนว่า....”
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดในใจ,”คงต้องใช้ดาบยาวมังกรเขียวแล้ว.”
ระบบเอ่ย,”ตั้งแต่กลับมาจากสำนักเห่าฉี,พลังบ่มเพราะของโฮสน์ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด,ถึงจะใช้ดาบยาวมังกรเขียวด้วยการใช้ยันต์แห่งพลัง,ก็คงไม่สามารถที่จะสร้างบาดแผลให้กับอีกฝ่ายได้.”
”!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”งั้นคงต้องใช้ดาบหนานโชวอย่างเดียวสินะ!”
ในเวลา นี้คงต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายแล้ว.
เวลานี้เขามียันต์เปิดผนึกสองแผ่น.
เพี่อที่จะทำให้ภารกิจมหากาพย์สำเร็จ,ไม่ให้เขตแดนบ่มเพาะสะดุด,ก็ต้องใช้ทุกอย่างที่มีออกไป!
ระบบก็กล่าวยอมรับเช่นกัน,”ต้องเป็นเช่นนั้น.”
“เจ้าสำนัก.”
ลู่เชียนเชียนเอ่ย,”ให้เวลาข้าหนึ่งวัน,ข้าสามารถผนึกการเคลื่อนไหวของมังกรเพลิงด้วยฝ่ามือเหมันตร์เก้าสวรรค์ได้.”
จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
บ่มเพาะหนึ่งวัน,สามารถสำเร็จวิชายุทธ์ระดับเทวะ,จนสามารถผนึกสัตว์ร้ายระดับสูงขั้นที่ห้าได้อย่างงั้นรึ?
เรื่องนี้...ล้อเล่นหรือไม่?
ทว่าจากท่าทางของลู่เชียนเชียนแล้ว,จุนซ่างเซียวก็เชื่อว่า,นางไม่ได้ล้อเล่น,นางกล่าวตามจริง!
“เจ้าสำนัก.”
โจวหงเอ่ย,”หากสามารถผนึกการเคลื่อนไหวของมังกรเพลิงได้,ศิษย์มั่นใจว่าจะทำให้มันได้รับบาดเจ็บหนักได้.”
เย่ซิงเฉินที่เงียบมาตลอดเอ่ยออกมาว่า,”สัตว์ร้ายมังกรเพลิงนั้น,หากว่าถูกผนึกด้วยผู้ฝึกยุทธ์ธาตุน้ำแข็ง,จะทำให้ร่างกายและความแข็งแกร่งร่างกายมันต่ำลง,สามารถที่จะโจมตีและสังหารมันได้ง่ายกว่าปรกติ.”
เขาที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นราชันย์ยุทธ์,ย่อมมีความรู้และประสบการณ์ต่อสู้มากมาย.
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ,”ยังมีเวลาสองวัน,ลองพยายามดู,หากว่าไม่ได้ผล,ก็ยังใช้ดาบหนานโชวได้อีกครั้ง.
ยันต์ปลดผนึกนั้นล้ำค่ามาก,หากประหยัดได้,แน่นอนก็ต้องเก็บเอาไว้.
“ตกลง!”
จุนซ่างเซียวที่ตัดสินใจทันที,”พรุ่งนี้เวลานี้,พวกเราจะไปสังหารมังกรเพลิงกัน!”
ที่ไกลออกไปเหล่าชาวยุทธ์ไร้สังกัดที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
สำนักไท่กู่เจิ้งจะหาญกล้าเกินไปแล้ว,นี่กล้าที่จะไปท้าทายสัตว์ร้ายระดับสูงขั้นห้าที่มีธาตุเปลวเพลิงด้วยรึ?!
“พี่สาม,พวกเรากลับกันเถอะ.”
“หากว่าสำนักไท่กู่เจิ้งไม่สามารถสังหารมังกรเพลิงได้,หลุดมายังพื้นที่พวกเราอยู่,พวกเราจะต้องตายแน่!”
“สัตว์ร้ายธาตุเปลวเพลิง,เมื่อมันโกรธจะต้องเผาทุกอย่างรอบ
ๆหุบเขาแห่งความตายให้กลายเป็นทะเลเพลิงแน่!”
เหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดหลายคนที่ถอนตัวจากไป.
หนำซ้ำ,ตลอดหลายวันมานี้พวกเขาที่เก็บของเหลือจากสำนักไท่กู่เจิ้งได้ไม่น้อย,ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่เสี่ยงตายกับสำนักไท่กู่เจิ้งอีกต่อไป.
“ตกลง,พวกเราจะถอนกำลัง!”
ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งที่เป็นเหมือนกับหัวหน้า,ยกมือประสานและกล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักจุน,ข้าและพรรคพวกคงต้องขอลาก่อน,หวังว่าสำนักของท่านจะจัดการมังกรเพลิงได้อย่างราบรื่น!”
แม้นว่าจะกล่าวอวยพร,ทว่าภายในใจของพวกเขาเข้าใจได้อย่างชัดเจน,การจะสังหารสัตว์ร้ายระดับสูงขั้นห้าที่มีธาตุเปลวเพลิงนั้น,อย่างน้อยต้องมีระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นหกเป็นอย่างต่ำ.
“เจ้าสำนัก,พวกเราคงต้องขอลาด้วยเช่นกัน!”
เพียงไม่นาน,ผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดกว่าครึ่งหนึ่งก็กล่าวลาและจากไป.
เห็นคนสิบห้ากว่าคนไม่จากไป,จุนซ่างเซียวเอ่ยกล่าวสอบถามออกไป,”พวกเจ้าไม่ไปอย่างงั้นรึ?”
ชายวันกลางคนคนหนึ่งเอ่ยกล่าวด้วยใบหน้าท่าทางเคร่งขรึม,”หากไม่มีเจ้าสำนักจุนล่ะก็,ซุนโหมวไม่มีทางเข้ามาถึงพื้นที่ลึกขนาดนี้,ดังนั้นจึงต้องการอยู่และช่วยเหลือท่านอีกแรง.”
“ใช่แล้ว!”
ผู้ฝึกยุทธ์อีกคนกล่าวออกมาว่า,”ข้าและพวก,ยินดีที่จะช่วยเหลือเจ้าสำนักจุนอีกแรง!”
หลายคนที่กล่าวด้วยความนับถือแสดงออกด้วยความจริงใจออกมา,แม้แต่คิดว่าหากช่วยสังหารมังกรเพลิง,จะได้ส่วนแบ่งอะไรมาบ้าง!
“ไม่จำเป็น.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”พวกเจ้าเป็นเพียงผู้ชมก็พอแล้ว.”
”......”
ทุกคนถึงกับมุมปากกระตุก.
เจ้าสำนักจุนกำลังดูแคลนพวกเขาอย่างงั้นรึ?
คิดว่าพวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้อย่างงั้นรึ?
ไม่.
ไม่ได้เกี่ยวกันเลย.
สิ่งที่จุนซ่างเซียวกังวลนั้น,เกรงว่าให้คนอื่นเข้ามาช่วย,ภารกิจมหากาพย์ของเขาจะไม่สมบูรณ์!
ไม่ต้องคิดเลยว่า.
มันอาจจะเป็นแค่ความเป็นไปได้.
หากมังกรเพลิงเหลือพลังชีวิต
1หน่วย,แล้วคนนอกเข้าร่วมสังหารไป,อาจไม่ถึงนับว่าเขาหรือศิษย์สังหารก็เป็นได้!
ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร,กันไว้ดีกว่าแก้,ให้พวกเขาคอยสังเกตอยู่ห่าง
ๆนะดีแล้ว!
“ทุกท่าน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยกล่าวออกมาว่า,”ขอให้อยู่สังเกตก็พอ,หากใครกล้าเข้าไป,อย่าตำหนิเปิ่นจั้วว่าโหดร้าย.”
พวกเขามีเจตนาดีต้องการช่วย,ไม่เพียงแต่ปฏิเสธ,ยังโกรธอีกอย่างงั้นรึ?
ทุกคนที่ได้ยินคำพูด,บางคนถึงกับถอยหลังออกไปอย่างไม่ตั้งใจ.
ที่ปากทางเข้าไปยังพื้นที่ถัดไปนั้น,ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งกำลังนั่งสมาธิฟื้นฟู,เพื่อให้อยู่ในสภาพที่พร้อมต่อสู้ที่สุด.
ลู่เชียนเชียนที่นั่งอยู่คนเดียวในพื้นที่โล่ง,เพื่อตระหนักรู้ฝึกฝนวิชา,ร่างกายของนางที่มีลมเย็นหมุนวนอยู่ช้า
ๆ.
เย่ซิงเฉินที่เผยท่าทางประหลาดใจเอ่ยกล่าวออกมาว่า,”สตรีผู้นี้มีกายาธาตุน้ำแข็งอย่างงั้นรึ?”
ไม่เพียงมีคุณสมบัติพิเศษ,ยังมีกายาพิเศษอีกด้วย.
เทียบกับจุนซ่างเซียว.
เขาไม่ได้มีกายาธาตุเปลวเพลิง,เพียงแค่หลอมรวมกับเพลิงประณีตเท่านั้น,จึงถูกนับได้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเปลวเพลิง.
ทว่าเมื่อเทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเปลวเพลิงที่มีกายาธาตุเปลวเพลิงแล้ว,ก็เหมือนกับมืออาชีพและมือสมัครเล่น.
เย่ซิงเฉินที่ลอบคิดอยู่ในใจ,”ทักษะยุทธ์ที่เจ้าสำนักมอบให้นางเมื่อวานนี้,คงมีระดับไม่ได้ต่ำแน่,หากว่านางสำเร็จได้ในพรุ่งนี้,สามารถแช่แข็งมังกรเพลิงได้,แสดงว่ากายาของนางนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน.”
ไม่มีเวลาคิดถึงคนอื่นอีกต่อไป,เขาที่ทำการบ่มเพาะโคจรวิชาพระสูตรไท่ฉวนทันที.
พรุ่งนี้จะมีการต่อสู้ใหญ่,เขาเองก็ไม่สามารถประมาทได้,ดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด.
หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆเองก็รับรู้เช่นกัน,พรุ่งนี้การต่อสู้กับมังกรเพลิงนั้น,เป็นการทดสอบหาประสบการณ์ที่น่าจะหนักที่สุด,พวกเขาเองก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม.
เซียวจุ้ยจื่อไม่ได้ฝึกฝน,เขาที่รับหน้าที่ในการเฝ้ายาม.
จุนซ่างเซียวเพราะว่าไม่สามารถยกระดับตัวเองได้,การฝึกฝนไปก็ไม่มีความหมาย,เขาที่คอยเฝ้ามองลู่เชียนเชียนคอยปกป้องนาง,ขณะเปิดร้านค้าตรวจสอบสินค้าด้านใน.
เขาที่ตัดสินใจที่จะรีเฟรซร้านค้า,หวังว่าจะพบสินค้าที่เป็นประโยชน์.
หากว่าโชคดีอาจจะพบสินค้าที่จะช่วยให้สังหารมังกรเพลิงในครั้งนี้ได้,ก็จะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก
ๆ!
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น