Miracle Throne Chapter 572 Goes to West Sea
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 572 เดินทางไปยังทะเลตะวันตก.
Chapter 572 Goes to West Sea
เดินทางไปยังทะเลตะวันตก.
ฉู่เทียนที่กลับมายังเมืองฉีจี,ท่านหญิงที่ดูเหมือนหมดเรี่ยวหมดแรง,นางที่ทำการรวบรวมข้อมูลทั้งวันทั้งคืน,ถึงแม้ว่าจะมีระบบปัญญาภูติคอยช่วยเหลือก็ตาม,เรื่องที่มากมายเช่นนี้ก็ยังนับว่าสร้างปัญหาไม่น้อย.
"เจ้าได้รับข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมาไม่น้อย,ข้าได้ทำการใช้กำลังของหอการค้าปาฏิหาริย์ทั้งหมดในการสืบข่าว,ตอนนี้สามารถยืนยันได้แล้ว่าเผ่าพันธุ์แห่งท้องทะเลนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามในครั้งนี้!"ท่านหญิงที่จ้องมองไปยังฉู่เทียนพลางถอนหายใจเบาๆ,เหล่านักรบเผ่าแห่งท้องทะเลได้ทำการรุกรานทางฝังตะวันตกอย่างเงียบๆ,เพราะว่าพื้นที่ดังกล่าวเต็มไปด้วยสายน้ำ,นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ลับ,ดังนั้นตำแหน่งต่างๆจนถึงตอนนี้,เหล่ากลุ่มอิทธิพลในป่าแห่งความวุ่นวายจึงยังไม่สามารถตระหนักได้."
เผ่าพันธุ์แห่งทองทะเลนับว่าเป็นหาใหญ่เลยทีเดียว.
ไม่มีใครรู้เผ่าพันธุ์แห่งท้องทะเลมีความแข็งแกร่งขนาดใหน.
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็รับรู้แล้วว่าเผ่าพันธุ์แห่งท้องทะเลนั้นได้ก้าวล้ำมาหนึ่งก้าวแล้ว,ซึ่งปรกติแล้วกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ในป่าแห่งความวุ่นวายนั้นน้อยมากจะมีคนลอบเข้ามาโจมตี,ยิ่งเป็นเผ่าแห่งท้องทะเลที่แตกต่างกันด้วยสภาพแวดล้อมยังมีโอกาสอีกรึ?
ไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ระหว่างเผ่าพันธุ์แห่งป่าและเผ่าพันธุ์แห่งท้องทะเลนั้นแตกต่างขนาดใหน,ปรกติแล้วพวกเขาแทบจะไม่เคยมีความขัดแย้งกันเลย.
ไร้ซึ่งเหตุผลจูงใจใดๆทั้งนั้น,ไม่มีใครสามารถรู้ได้ถึงเจตนา,คงทำได้แค่ต้องไปเยือนทะเลตะวันตก.
***力克西斯Lìkè xī
sī หลี เกอไซซือ Alexis (ราชินีแมงมุม)**
ฉู่เทียนไม่รู้ว่ายาหลีเกอไซซือนั้นได้ชักจูงเมืองทะเลตะวันตกอย่างไร,ไม่ว่าอย่างก็คาดว่ายาหลีเกอไซซือนั้นจะต้องหลอกล่อพวกเขาอยู่เป็นแน่,หากเป็นไปได้การชักจูงเข้ามาเป็นพันธมิตรแห่งป่า,น่าจะเป็นโอกาสที่ดีกว่าพันธมิตรอื่นๆไม่ใช่หรือ!
"อาณาจักรต้าโจวจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้นานขนาดใหน?"
"เพราะว่าราชาเหยี่ยวโลหิตได้รับบาดเจ็บด้วยฝีมือข้า,บางทีคงไม่สามารถบัญชาการรบเข้าโจมตีได้ในทันที,ซ้ำยังมีข่าวลือที่ได้ปล่อยออกไปแล้วนั้น,ตอนนี้ราชาจักรพรรดิเหยี่ยวนรกเริ่มสงสัยราชาเหยี่ยวโลหิตสถานการณ์เช่นนี้คงจะไม่กล้าที่จะกระทำการอะไรโดยที่ไม่ยั้งคิด,ตามที่ข้าคาดการณ์คาดว่าอย่างน้อยที่สุดคงจะต้องใช้เวลาราวๆสิบวัน."
"สิบวัน?แค่นี้ก็พอ!"
ฉู่เทียนที่ออกมาจากตำหนักเจ้าเมืองเตรียมการที่จะเดินทาง,ขณะที่จัดแจงเตรียมสัมภาระอยู่นั้น,ทันใดก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่ง,จึงได้หันหน้าพร้อมกับกล่าวออกไปนอกห้อง,"ไม่เห็นต้องผลุบๆโผล่เลยนิ,มีสิ่งใดที่อยากจะพูดอย่างงั้นรึ?"
"เชอะ,กล่าวอะไรไร้เหตุผล!"เมิ่งหยิงหยิงที่กระโดดเหยงๆด้วยท่าทางหงุดหงิด,นางที่สวมชุดที่คล้ายๆกับเผ่าเอลฟ์เสื้อรัดกระโปรงสั้น,เผยให้เห็นท่อนขาเรียวขาวเนียน,แก้มทั้งสองข้างที่ดูแดงระเรื่อ,เป็นชุดที่ดูน่ารักน่าชังเป็นอย่างมาก,"ข้าได้ยินว่าเจ้าจะเดินทางไปยังเมืองทะเลตะวันตก."
"หยิงหยิงเจ้าเป็นห่วงข้าขนาดนี้เลย,ที่จริงทำให้หัวใจของข้าสั่นเลยนะ."ฉู่เทียนที่เดินตรงเข้าไปหาพร้อมกับลูบไปที่แก้ม,พร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม,"โปรดวางใจข้าไปทั่วทุกสารทิศมากมายเสี่ยงอันตรายมากยิ่งกว่าเมืองทะเลตะวันตกซะอีก,ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นแน่นอน!"
ดวงตาของเมิ่งหยิงหยิง,ที่กลมโตจ้องมองเขม็ง,"ใครเป็นห่วงเจ้ากัน,ข้าได้ยินมาว่าเผ่านางเงือกของเมืองทะเลตะวันตกนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่งดงามมาก,ข้าเป็นห่วงว่าเจ้าจะไปตกหลุมหลงเสน่ห์พวกนางเข้า,อย่าให้รู้นะ
ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่เอาเจ้าไว้แน่!"
ฉู่เทียนที่ทำเป็นตีหน้าเศร้าขึ้นมาในทันที,"ตั้งแต่แรกแล้วข้าคิดข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว,เจ้าเห็นข้าเป็นคนเหลวไหลขนาดนั้นเลยเหรอ,ไม่คิดเลยว่าในสายตาของเจ้า
ข้าจะเป็นคนที่ชั่วร้ายขนาดนั้น,พวกเรารู้จักกันมาตั้งนาน,คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะไม่เชื่อใจข้า,ข้ารู้สึกเศร้าเหลือเกิน."
"ไม่,ไม่,ข้าไม่ได้หมายความอย่างงั้น!"เมิ่งหยิงหยิงที่แสดงท่าทางอักอ่วนเกาศีรษะไปมา,ขยับเข้าใกล้ฉู่เทียน,พร้อมกับจับมือเขาและกล่าวออกไปว่า,"ข้าเชื่อใจเจ้าเสมอ!"
"ไม่ว่าจะเวลาใหนเจ้าก็อยู่ในใจข้าเสมอ."ฉู่เทียนที่โน้มตัวเข้าหานางเช่นกัน,"เช่นนั้นเจ้าจะปลอบใจข้าเช่นไรล่ะ?"
ใบหน้าของเมิ่งหยิงหยิงที่แดงกล่ำพร้อมกับก้าวเข้าไปด้านหน้าเขย่งเท้าพร้อมกับจุมพิตที่ริมฝีปากของฉู่เทียนเบาๆ,"เอาล่ะ,เจ้าควรจะพอใจแล้ว,หากว่าเจ้ากล้านอกใจข้าล่ะก็,ข้าเชื่อว่าท่านพี่เองก็จะลงโทษเจ้าแน่!"
ฉู่เทียนที่หัวเราะเบาๆมือทั้งสองข้างที่คว้าเมิ่งหยิงหยิงเข้ามาในอ้อมกอด,"นี่เจ้ากล้าข่มขู่ข้าเลยเหรอ,พวกเราที่จะต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว,พี่สาวของเจ้าจะจัดการได้อย่างไร."
"บางทีเรื่องนี้,ข้านั้นไม่อยากแยกจากท่านพี่,เมื่อเวลานั้นมาถึง,พวกเรา...."
"เจ้ากำลังกล่าวสิ่งใดข้าไม่เห็นเข้าใจเลย?"
เมิ่งหยิงหยิงที่ต้องการจะกล่าว่าให้พี่สาวแต่งงานกับเขาพร้อมกัน,ทว่าคำพูดของเจ้าคนกะล่อนคนนี้กลับแสร้งเป็นไม่รู้,นางที่ชำเลืองมองและบ่นพึมพำ,พร้อมกับเปลี่ยนหัวข้อไป,"ก่อนหน้านี้เจ้ากล่าวว่าจะเตรียมงานแต่งกับข้า,ตอนนี้เรื่องราวไปถึงใหนแล้วล่ะ?
ผู้หญิงทุกคนต่างก็มีความอดทนจำกัดนะ!"
ฉู่เทียนเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น,"ตราบเท่าที่เจ้าต้องการ,ข้าจะทำให้ทุกคนทั่วทั้งป่าตื่นตะลึงกับงานแต่งที่ยิ่งใหญ่ของพวกเราเลย!"
"ต้องประมาณนี้แหละ!"สาวน้อยเมิ่งหยิงหยิงที่รู้สึกสนใจกับคำพูดของฝ่ายตรงข้ามเผยยิ้มออกมาแก้มปริ,นางที่เบ้ปากและคิดอยู่ชั่วขณะแล้วกล่าว่า,"ข้าคิดว่าเมืองทะเลตะวันตกป่าแห่งความวุ่นวายเป็นเมืองที่งดงามมาก,ยังไงหากว่าเจ้าสามารถจัดการเมืองทะเลตะวันตกได้,พวกเราจัดที่นั่น..."
***这还差不多 Zhè hái chàbùduō ต้องเป็นไปตามที่เรียกร้องหรือขอเอาไว้ จะแปลเป็นสำนวนไทยได้ว่า
ต้องประมาณนี้แหละ***
"ไม่มีปัญหา,ตราบเท่าที่เจ้าต้องการ,เมืองทะเลตะวันตก,นับว่าเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมทีเดียว."
เมิ่งหยิงหยิงที่ได้รับคำมั่นของฉู่เทียน,ภายในใจของนางเต้นไปมาด้วยความตื่นเต้น,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจยิ้มออกมาไม่หุบ,"พูดแล้วห้ามคืนคำ!"สิ้นเสียงคำพูด,จากนั้นก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว.
ฉู่เทียนที่จ้องมองแผ่นหลังที่งดงามของหยิงหยิง,ภายในใจของเขาที่รู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก.
แม้ว่านี่คือชีวิตที่สองของเขา,ทว่ากลับไม่เคยได้รับรู้ถึงความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย.
เมิ่งหยิงหยิงในสายตาของฉู่เทียนแล้ว,ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก,แต่นางกับเป็นคนที่ทำให้ฉู่เทียนรู้สึกสบายใจที่สุด,เป็นคนที่เขาต้องการทะนุถนอมปกป้อง,เป็นเหมือนกับของขวัญที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาทีเดียว!
ฉู่เทียนที่พูดแล้วต้องทำเสมอ!
ในเมื่อเขารับปากว่าจะจัดงานแต่งงานขึ้นที่เมืองทะเลตะวันตก,เช่นนั้นฉู่เทียนก็จำเป็นต้องเอาชนะเมืองทะเลตะวันตกให้ได้ซะก่อน!
เมืองฉีจีนั้นถูกสร้างขึ้นใจกลางเนินเขาที่อยู่ใจกลางของหุบเขา,เป็นเนินเขามากมายที่กระจายตัวไปทั่วทั้งหุบเขา,ดูราบเรียบ,เปิดโล่งเป็นจำนวนมาก,ดูเกลี้ยงเกลา,ไม่มีส่วนที่ใช้การไม่ได้,พื้นที่รอบๆนี้มีโรงงานมากมายกระจายตัวอยู่รอบๆ,มีนักรบเป็นจำนวนมากประจำการอย่างแน่นหนา.
"เจ้านาย,ทางนี้!"
สาวงามผมสีแดงเพลิงและร่างกายที่ดูร้อนเร่ากำลังกวักมือเรียกฉู่เทียน,ที่ด้านหลังของนางนั้นมีเครื่องจักรรูปทรงสามเหลี่ยมที่ยื่นออกไปด้านหน้า,สร้างมาจากวัตถุดิบที่เบาและแข็ง,บนผิวของมันนั้นเสริมความแข็งแกร่งด้วยอักษรรูนมากมาย,ที่ด้านหน้านั้นเป็นเหมือนกับหนามแหลม,ด้านหลังเป็นรูปสีเหลี่ยมผืนผ้า,และมีเครื่องยนต์พลังเวทย์ติดตั้งอยู่ด้านหลัง,ไม่จำเป็นต้องบอกนี่คือยานบินที่เป็นนวัตกรรมใหม่นั่นเอง.
หนานกงหยุนที่เป็นม้าดีดกระโหลกตะโกนเสียงดังพูดกับฉู่เทียน,"นี่คือผลงานใหม่ของทีมงานเรือเหาะเลยนะ,แม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่นัก,ทว่ากลับมีความสามารถสูงมาก,ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์พลังเวทย์และวงเวทย์อักขระ,ทำให้สามารถวิ่งด้วยความเร็วเหนือเสียงตั้งหลายเท่า,มีความเร็วเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญภูติแท้หลายขั้นทีเดียว,ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ก็ยากจะสกัดกั้นสิ่งนี้ได้,เป็นอย่างไร,ยอดเยี่ยมใช่มะ!"
ฉู่เทียนพยักหน้าตอบรับ,"เป็นยานบินที่บินเร็วขนาดนี้เลย,ยอดเยี่ยมจริงๆ!"
"ยังไม่ได้ทำการทดสอบเลยตั้งแต่มีการติดตั้งอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ,อุปกรณ์พื้นฐานประกอบด้วย,ปืนใหญ่พลังเวทย์ขนาดกลาง,ปืนกลอัตโนมัติ,และโล่พลังงานป้องกันรอบคัน,ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะมีใช้ในอนาคตทั้งหมด,ในวันข้างหน้านั้นพวกเราจะต้องมีกองกำลังทางอากาศเป็นกองกำลังหลักอย่างแน่นอน!"
"เยี่ยม,ทำได้เยี่ยมมาก!"ฉู่เทียนที่รู้สึกพึงพอใจกับการทำงานของทุกคนเป็นอย่างมา,"เช่นนั้นข้าจะเป็นคนทดสอบมันด้วยตนเองก็แล้วกัน!"
หนานกงหยุนที่แนะนำระบบขับเคลื่อนต่อฉู่เทียน,"ยานบินนี้หลักๆแล้วมีระดับควบคุมสองวิธีอย่างแรกนั้นเป็นการควบคุมด้วยตัวเองหรือระบบกึ่งอัตโนมัติ,ทว่าเพราะว่ายานต่อสู้นี้ไม่ได้ใส่ระบบช่วยเหลือพิเศษเข้าไปให้พร้อมเนื่องด้วยจำนวนคนของหอการค้าของพวกเรามีจำกัด,ดังนั้นจึงได้ว่าจ้างเหล่านายช่างเผ่าเอลฟ์เข้ามาช่วย,ตอนนี้จึงใช้ได้แค่วิธีที่สอง,เป็นการควบคุมด้วยพลังจิต,ยิ่งมีพลังจิตที่สูงก็จะสามารถควบคุมได้ดีขึ้น,ข้าเชื่อว่าด้วยความสามารถของเจ้านายแล้ว,ด้วยการควบคุเช่นนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมาก."
ฉู่เทียนที่เข้าไปนั่งที่ห้องโดดสารก่อนที่จะให้สัญญาณมือกับหนานกงหยุนว่าไม่มีปัญหา,พร้อมกับนำหมวกนิรภัยที่สลักด้วยวงเวทย์ไปหมดขึ้นมาสวม,พร้อมกับปล่อยพลังจิตออกไป,ก่อนที่พลังจะแพร่ไปทั่วทั้งยานเหาะราวกับว่าคนและยานเหาะเครื่องนี้ได้รวมเป็นร่างเดียวกัน.
วงเวทย์อักขระถูกเปิดใช้งาน!
เครื่องยนต์พลังเวทย์ปล่อยเพลิงสีน้ำเงินออกมา.
ยานบินต่อสู้ที่มีความเร็วเหนือเสียง,พุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า,เพียงแค่ไม่กี่วินาทีก็หายไปกับสายตา,หนานกงหยุนที่จ้องมองออกไปด้วยท่าทางพึงพอใจ,เรื่องนี้นับว่าเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของหอการค้าปาฏิหาริย์เลยก็ว่าได้,และฉู่เทียนยังเป็นผู้ทดสอบในครั้งนี้ด้วยตัวเอง,หลังจากที่สามารถทดสอบได้อย่างเพียงพอ,หอการค้าปาฏิหาริย์ก็จะสามารถผลิตออกมาเป็นจำนวนมากได้.
ยานเหาะต่อสู้หากว่าผลิตได้สักหนึ่งหมื่นลำล่ะก็.
เช่นนั้นแล้วมันจะกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งทรงพลังที่สุดในทวีปแห่งนี้!
ฉู่เทียนที่นั่งอยู่บนห้องโดยสารและควบคุมยานบินต่อสู้นี้ด้วยพลังจิต,ยานบินที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง,ความเร็วของมันเหนือยิ่งกว่าความเร็วเสียงสิบเท่า,วัตถุดิบที่นำมาสร้านยานบินต่อสู้นี้
เห็นชัดเจนว่าพิเศษเป็นอย่างมาก,ถึงแม้ว่าจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเสียงถึงเพียงนี้,คาดไม่ถึงเลยว่า
เมื่อต้องเสียดสีกับอากาศ,กับไม่มีเพลิงลุกไหม้แม้แต่น้อย,ดูเหมือนว่ารอบๆนี้จะมีการสลักอักขระลดสิ่งรบกวนต่างออกไปจนหมด.
ทีมวิจัยและพัฒนาของหอการค้าปาฏิหาริย์นับว่ามีความสามารถน่าเกรงขามมาก!
ในอดีตนั้นสำนักเมหาเป็นเพียงแค่สถานีวิจัยขนาดเล็กในรัฐกลาง,ในเวลานี้ได้กลายเป็นห้องทดลองที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสุงของทวีปแห่งนี้,บางทีไม่ว่าจะเป็นสถานีวิจัยแห่งใดในทวีปแห่งนี้คงจะไม่มีที่ใหนสามารถนำมาเทียบได้แล้ว!
ฉู่เทียนที่พยายามที่จะเคลื่อนไหวด้วยการควบคุมด้วยพลังจิตในรูปแบบต่างๆ,แม้ว่าจะพบกับปัญหาบ้างเล็กๆน้อย,ทว่าการตอบสนองโดยรวมนับว่ายอดเยี่ยมทีเดียว,นี่คืออาวุธสงครามที่ดีที่สุดในทวีปแห่งนี้,ด้วยยานเกราะเช่นนี้จะสามารถยึดครองการรบบนท้องฟ้าได้อย่างสิ้นเชิง,ตราบเท่าที่สามารถผลิตออกมาจำนวนมาก,จะกลายเป็นกองกำลังทางอากาศชั้นยอดที่เหนือกว่าทุกกองกำลังทางอากาศไปในทันที!
ฉู่เทียนที่เหินอยู่บนท้องฟ้าบนป่าแห่งความวุ่นวาย,สายตาของเขาในเวลานี้ที่เริ่มพบกับสายน้ำมากขึ้นและก็มากขึ้น,เข้ารู้ว่าหลังจากที่บินติดต่อกันมาหลายชั่วโมง,ในเวลานี้ได้เข้าใกล้กับทะเลภาคตะวันตกมากขึ้นและก็มากขึ้น.
ชายฝั่งตะวันตกนั้นเป็นภาคตะวันตกของทวีปแห่งนี้ด้วย.
เมื่อเดินทางไปยังชายฝั่งทางทิศตะวันตก,ภูมิภาคแห่งนี้นั้นเป็นทะเลที่ไร้ขอบและมีหมู่เกาะมากมาย,ทว่าโดยรวมแล้วก็เป็นทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล,พื้นที่ห้วงทะเลแห่งนี้,ผู้คนไม่ค่อยรู้จักนัก,รู้เพียงว่ามีเผ่าพันธุ์แห่งท้องทะเลที่มีจำนวนไม่ได้ด้อยไปกว่าบนพื้นดินเลย,และมีความเก่าแก่มากยิ่งกว่าบนพื้นดินซะอีก.
ท้องทะเลแห่งนี้นั้นมีเผ่าพันธุ์ที่มีอารยะธรรมอันหลากหลาย,พวกเขาเองก็เป็นเหมือนกับเผ่าพันธุ์หนึ่งในทวีปแห่งนี้,
มีติดต่อกันและกัน,แย่งชิงทรัพยากร,แม้แต่มีจักรวรรดิเป็นของตัวเอง,ในยุคๆหนึ่งที่ทรัพยากรมีอย่างจำกัด,ไม่ว่าจะเป็นเผ่าบนพื้นดินหรือเผ่าแห่งท้องทะเลต่างก็เกิดการแข่งขัน,ก่อนที่ไม่ค่อยไปมาหาสู่กัน,ตอนนี้เริ่มติดต่อกันบ้างแล้ว.
หลายพันหลังจากนั้น,เผ่าพันธุ์แห่งท้องทะเลที่เกิดการแข่งขันกันขึ้นครั้งใหญ่,ทำให้พวกเขาเริ่มที่จะติดต่อกับสิ่งมีชีวิตบนพื้นผ่านการขนส่งและค้าขายทางทะเล,และมีรูปแบบของการดำเนินชีวิตที่ค่อยๆเปลี่ยนไป.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==> Click
-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น