Miracle Throne Chapter 566 The showdown of prairie
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 566 การเผชิญหน้าบนทุ่งหญ้า.
Chapter 566 The showdown of prairie
การเผชิญหน้าบนทุ่งหญ้า.
ไม่ว่าใครก็ตามที่แอบอยู่ข้างหลัง.
ไม่ว่าจะเป็นแผนการของใครก็ตาม.
ตอนนี้เรื่องเร่งด่วนคือจัดการปัญหาของอาณาจักรทางเหนือทั้งสามก่อน,พันธมิตรแห่งป่านั้นไม่สามารถที่จะยกกองกำลังไปช่วยได้,โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต้องเผชิญกับกองกำลังกำลังร่วม,ในมือของสี่ผู้ยิ่งใหญ่นั้น,คนที่มีกองกำลังมากที่สุด,และมีกองกำลังขนาดใหญ่,นั่นก็คือที่ราบสูงอสูร.
ทำไมถึงไม่ให้ที่ราบสูงอสูรส่งกองกำลังไปช่วยอาณาจักรทั้งสามล่ะ?
ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยว่ากองกำลังพันธมิตรแห่งป่านั้นเพิ่งจัดตั้งขึ้น,ไม่คุ้มค่าที่จะเคลื่อนย้ายไปในเวลานี้,ที่ราบสูงอสูรนั้นอยู่ห่างไกลจากอาณาจักรทั้งสามเป็นอย่างมาก,การเคลื่อนย้ายทางไกลกองกำลังขนาดใหญ่ยังไม่สามารถทำได้,ที่ราบสูงอสูรเองก็ไม่สามารถที่จะเดินทางหลายหมื่นลี้เพื่อไปเป็นกำลังเสริมได้เช่นกัน.
ดังนั้นการช่วยเหลืออาณาจักรทั้งสามนั้น,เมืองฉีจีจึงจำเป็นต้องหาวิธีด้วยตัวเอง.
ฉู่เทียนตัดสินใจที่จะออกไปบัญชาการด้วยตัวเองเลย,"แม้ว่าพวกมันจะมีกองกำลังมากกว่าพวกเรามาก,แต่หอการค้าปาฏิหาริย์ไม่ได้ด้อยกว่าอย่างแน่นอน,พวกเราเองก็มีทหารที่ทรงพลังมีเทคโนโลยีที่เหนือกว่าถึงแม้ว่าจะจะไม่สามารถตีโต้กลับไปได้ด้วยจำนวนที่น้อยกว่า,แต่ก็เพียงพอที่จะถ่วงเวลาได้,ข้าจะหาวิธีทำลายกองทัพของพวกมันเอง."
ท่านหญิงไม่สามารถไปได้.
ทักษะการรบของท่านหญิงยังน้อยอยู่,อีกแง่หนึ่งนางที่เป็นเหมือนกับมันสมองของเมืองฉีจี,อย่างน้อยที่สุดแม้ว่านางที่อยู่ในเมืองฉีจีก็ยังสามารถออกคำสั่งได้,อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกเป็นกังวลทั้งฉู่เทียนและเมืองแห่งนี้พร้อมๆกัน,การยกกองกำลังของอาณาจักรเหยี่ยวนรกมาในครั้งนี้,อาจจะเป็นเพียงแค่แผนการหนึ่ง,เป็นไปได้ว่าอาจจะมีแผนร้ายที่มุ่งมายังเมืองฉีจีก็เป็นได้.
เมิ่งชิงอู๋ที่กล่าวต่อฉู่เทียน,"ข้าได้ส่งกองกำลังอสูรคลั่งพร้อมกับเครื่องกลจำนวนหนึ่งไปก่อนหน้าที่อาณาจักรเป่ยหรงแล้ว,อาวุธใหม่ของพวกเราที่เพิ่งวิจัยและพัฒนาคงจะได้โอกาสลองใช้งานก็ครั้งนี้ล่ะ,การต่อสู้ในครั้งนี้จะมีการเก็บข้อมูลทางอากาศไว้ด้วย,เพื่อช่วยพวกเราในการพัฒนาอาวุธต่อไป,โปรดดำเนินการอย่างระวังด้วย."
ดูเหมือนว่าท่านหญิงได้เตรียมการไว้อย่างดีดูเหมือนว่าจะเป็นกังวลขนาดนั้นเลยรึ?
ฉู่เทียนเดินทางไปยังทัพหน้าของอาณาจักรเป่ยหรงในทันที,อาณาจักรเป่ยหรงนั้นเดิมทีก็คืออาณาจักรเฉวียนหยงนั่นเอง,ตอนนี้ได้ทำการก่อตั้งขึ้นใหม่ที่ทุ่งหญ้าเฉวียนหยง,สถานที่แห่งนี้มีประชากรมากมายหลากหลายเผ่าต่างๆของอสูรวิญญาณ,ด้วยพื้นที่เป็นทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่กองกำลังของอาณาจักรเหยี่ยวนรกที่บุกเข้ามานั้น,ยากที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า.
อาณาจักรเป่ยหรงในพันธมิตรทั้งสามนั้น,นับว่าอ่อนแอที่สุด,ด้วยพื้นที่เฉพาะ,ทำให้อาณาจักรเป่ยหรงจึงกลายเป็นพื้นที่เป้าหมายในการเข้าจู่โจม,ตอนนี้เมืองหลายเมืองของอาณาจักรเป่ยหรงนั้นถูกยึดไปแล้ว,ทั่วทั้งทุ่งหญ้าเฉวียนหยงค่อนข้างวุ่นวายทีเดียว,จากการตรวจสอบมีกองกำลังทหารของอาณาจักรเหยี่ยวนรกมากกว่า
300,000 ตนและมีกองกำลังทางอากาศอีก 50,000.
เพียงแค่ 300,000
ฟังดูเหมือนไม่มาก,ที่จริงแล้วกลับเป็นจำนวนที่มากมายทีเดียว.
เพราะว่ากองกำลังทั้ง 300,000
นั้น,คือกองกำลังหลักของพวกเขา,กองกำลังของอาณาจักรเหยี่ยวนรกนั้นมีเป็นจำนวนมาก,กองกำลังทั่วไปนั้นมีมากมายหลายล้านตน,หากแต่กองกำลังดังกล่าวนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมตัวชั่วคราว,ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วเท่ากับกองกำลังหลัก,ที่เป็นเหมือนกับกองกำลังพิเศษที่พร้อมทะลวงไปด้านหน้าได้อย่างมั่นคง,ซึ่งเมื่อพวกเขาทะลวงแนวป้องกันแล้ว,กองกำลังทั่วไปจะถูกส่งมาภายหลังเพื่อกลืนกินพื้นที่ของศัตรูอย่างรวดเร็ว.
นี่คือแผนการโจมตีที่หยาบและเรียบง่าย,พวกเขาที่ควบคุมกองกำลังพิเศษบุกเข้าจู่โจม,ด้วยการบัญชาการกองกำลังเหยี่ยวที่แข็งแกร่งและทรงพลัง,อาณาจักรเหยี่ยวนรกนั้นเหมือนดั่งชื่อของอาณาจักร,ไม่เพียงแค่มีนกอินทรีย์เท่านั้น,ในทางตรงข้ามพวกเขาที่ยกย่องสรรเสริญเหยี่ยวรบ,ตระกูลราชวงศ์เหยี่ยวนรกนั้นก็คือเทพเหยี่ยวบรรพกาล.แม้ว่าจะล้มหายตายจากไปนานแล้ว,ทว่าก็ยังมีการสืบทอดมาถึงลูกหลาน,เหล่าราชวงศ์เหยี่ยวนรกได้รับความพลังแข็งแกร่งมาจากบรรพบุรุษ.
มีสมบัติสืบทอดมาจากเทพเหยี่ยวจากยุคบรรพกาล.
ทำให้อาณาจักรเหยี่ยวนรกนั้นยืนอยู่เหนืออาณาจักรอื่นๆ,โดยเฉพาะตระกูลราชวงศ์เทพเหยี่ยวที่เต็มไปด้วยความอหังการ.
ตอนนี้แม่ทัพที่นำทัพมาคือคนของตระกูลเทพเหยี่ยว,ดูรูปร่างภายนอกมีขนเป็นสีเขียวคราม,ผมเป็นสีแดงชาด,ดวงตาสีแดงเข้ม,มีจะงอยปากยืนออกมา,ที่ด้านหลังมีปีก,ดูเหมือนกับคนและเหยี่ยวผสมกัน,สายตาที่คมกริบ,ขนบนปีกราวกับว่าเต็มไปด้วยพลังที่น่าเกรงขาม.
คนของเผ่าเทพเหยี่ยวและเผ่าเหยี่ยวธรรมดานั้นแตกต่างกันมาก,คนของเผ่าเทพเหยี่ยวนั้นจะมีพลังที่โดดเด่นได้รับพลังการสืบทอดสายโลหิต,ซึ่งเป็นขีดจำกัดสายโลหิตเหมือนกับหนี่หวางเฉินปิงยวีของอาณาจักรต้าโจว,เมื่อพลังทางสายโลหิตถูกปรุกขึ้นมาแล้ว,จะทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว,ทั้งพลังต่อสู้และความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกหลายระดับเลยทีเดียว.
"เหนือหัวราชาเหยี่ยวทมิฬ,พวกเราได้พบข้าศึก,รวมตัวขึ้นที่ทุ่งหญ้าด้านหน้าของพวกเรา."ขุนพลผู้หนึ่งที่เข้ามารายงานอย่างเร่งรีบ,สายตาของอสูรวิญญาณที่เต็มไปด้วยความเคารพและชื่นชม,"สถานการณ์ในเวลานี้,พวกเราไม่เห็นกำลังเสริมใดๆ,พวกมันมีไม่มากนัก,คาดว่ามีอยู่ราวๆ
20,000 คน."
แม่ทัพราชาเหยี่ยวทมิฬนั้นเป็นผู้ดูแลการรบกับอาณาจักรเป่ยหรงนั่นเอง,ซึ่งที่จริงแล้วก็เขาก็คือจู่โหวหวังของอาณาจักรเยี่ยวนรกนั่นเอง.
***诸侯 (อ่านว่า-จูโหว) (สามนตราช-กษัตริย์,เจ้าพระยา) ผู้ปกครองซึ่งอาจจะเป็นน้องชาย ลูกพี่ลูกน้อง ญาติ หรือขุนนาง
ที่เทียนจื่อมอบหมายให้ไปดูแลก๊กบริวาร ***
ซึ่งราชาแห่งเขี้ยวที่เคยถูกส่งมาปกครองอาณาจักรเฉวียนหยิงเองก็เป็นขุนนางที่ราชาส่งมา,เป็นเพียงโหวเพราะว่ามีพื้นที่ขนาดเล็ก,ซึ่งมีศักดิ์ฐานะต่ำเกิดกว่าที่จะกล่าวถึงด้วยซ้ำ,ส่วนจูโหวนั้นจะถูกส่งออกไปต่อสู้ยึดครองเฉพาะพื้นที่ขนาดกลางและขนาดใหญ่เท่านั้น.
จู่โหวหวังเหยี่ยวทมิฬนั้นเห็นหนึ่งในห้าของกองกำลังอันเกียงไกรที่สุดของหวังเจี๋ยจื่อ!
***王爵者 Wáng
jué zhě เชื้อสายราชวงศ์,อ๋อง.***
ทั้งความแข็งแกร่งและสถานะของพวกเขานั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,ราชาเฉวียนหยงนั้นไม่สามารถนำมาเทียบได้เลย,ในเวลานี้การเข้าโจมตีอาณาจักรพันธมิตรทั้งสาม,พวกเขาได้ส่ง
กองกำลังหวังเจี๋ยจื่อออกมาถึงสามทัพ,เป็นการให้ความสำคัญเทียบเท่ากับอาณาจักรขนาดใหญ่,หรือรู้สึกหวั่นเกรงก็ไม่สามารถบอกได้.
ขุนพลระดับสูงที่แค่นเสียงออกมาอย่างเหยียดหยัน,"มีเพียง
20,000 เองรึ? คิดว่าจำนวนเท่านี้จะทำอะไรพวกเราได้กัน? ส่งกองกำลังเขี้ยวหมาป่า
30,000 นายออกไปกำจัดพวกมันให้สิ้นซากซะ!"
"อย่าลืมความอับอายในครั้งก่อน!"ราชาเหยี่ยวทมิฬสายตาที่คมกริบราวกับมีด,กวาดตามองออกไปยังเหล่าขุนพลที่ไม่กล้าแม้แต่เงยหน้าขึ้นมามอง,"ศัตรูของพวกเราดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายขนาดนั้น,มีทหารกลุ่มหนึ่งที่ดูอันตรายเป็นอย่างมาก,กองกำลังลาดตระเวนของพวกเราที่ถูกโจมตีและยังถูกจับตัวไป
1-2 นาย,นอกจากนี้กองกำลังทางอากาศของพวกเราที่ออกลาดตระเวน,ยังไม่ทันไรก็ถูกยิงร่วงไปไม่น้อย!"
เหล่าขุนพลรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย.
ราชาเหยี่ยวทมิฬดูเหมือนว่าจะระมัดระวังขนาดนี้เลยรึ?
ที่นี่มีกองกำลังเฉพาะของราชาเหยี่ยวทมิฬที่ประจำการอยู่
150,000
ตน,นอกจากนี้ยังเป็นนักรบชั้นสูงของอาณาจักรเหยี่ยวนรก,เป็นทหารชุดเกราะหนัก,กองกำลังเคลื่อนที่เร็ว,ทหารราบ,ทหารอากาศ,ไม่ว่าจะเป็นกองทัพแบบใหนก็ล้วนแล้วแต่ไม่อยู่ในสายตา,ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามที่มีกองกำลังเพียงแค่
20,000
,จะเอามาเทียบกับกองกำลังระดับชาติที่เป็นหนึ่งในห้าของกองกำลังอันทรงเกียรติหวังเจี๋ยนจื่ออย่างงั้นรึ?
ราชาเหยี่ยวทมิฬนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างมีเหตุผล,ผู้ใต้บังคับบัญชาต่างก็รู้ถึงความสามารถของเขาดี,และรู้ว่าพวกเขาจะต้องเข้ายึดครองสามอาณาจักรพันธมิตรให้ได้เร็วที่สุด,ซึ่งแน่นอนว่าอีกเหตุผลหนึ่งพวกเขาย่อมต้องระวังกองกำลังของป่าแห่งความวุ่นวายที่สนับสนุนสามอาณาจักรนี้อยู่,แม้ว่าอาณาจักรเหยี่ยวนรกนั้นจะมีกองกำลังจำนวนมากไม่ได้ด้อยไปกว่าอาณาจักรระดับจวั้นกว๋อขนาดใหญ่เลย,ทว่าผู้เชี่ยวชาญป่าแห่งความวุ่นวายนั้นเต็มไปด้วยนักรบที่แข็งแกร่ง,มีผู้เชี่ยวชาญระดับอาณาจักรสวรรค์เป็นจำนวนมาก!
แม้ว่ากองกำลังทั้งห้าหวังเจี๋ยนจื่อจะร้ายกาจ,ทว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนมากนั้นต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญภูติแท้ระดับ
9 หรือภูติแท้ระดับ 9 ขั้นปลาย,ด้วยความแข็งแกร่งผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ไม่กี่คนก็สามารถจัดการพวกเขาได้เกือบหมดแล้ว,หากว่ากองกำลังพันธมิตรแห่งป่าถูกส่งออกมาแล้วล่ะก็,แน่นอนว่าด้วยจำนวนนั้นไม่สามารถที่จะทดแทนความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามได้เลย!
ข่าวการสอดแนมเบื้องต้นที่ถูกส่งมาอย่างรวดเร็ว.
กองกำลังของฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นซีเหริ่นโม่และนักรบคนเถื่อนผสมกัน.
ราชาเหยี่ยวทมิฬนั้นตกใจเล็กน้อย,ซีเหรินโม่และนักรบคนเถื่อนนั้น,ไม่ใช่เผ่าดั้งเดิมของป่าแห่งความวุ่นวาย,ดังนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่านี้คือกองกำลังเสริมจากภายนอก,แต่ทำไมถึงเป็นซีเหริ่นโม่และเผ่าคนเถื่อนล่ะ?
สองเผ่าพันธุ์นี้มีผิวหนังที่แข็งเหมือนเหล็กกล้าและมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งมีพลังที่แทบจะไร้ขีดจำกัด,ไม่สามารถที่จะฝึกฝนเผ่าดังกล่าวนี้ได้อย่างง่ายดายนัก!
หากเทียบกับอาณาจักรทั่วไปล่ะก็,กองกำลังซีเหริ่นโม่และเผ่าคนเถื่อนนั้นก็ไม่นับว่าเป็นอุปสรรคอะไรนัก,ทว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ดูจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง,คนเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกฝึกฝนมาอย่างดี,ทักษะของซีเหริ่นโม่แต่ละตนนั้นมีความสามารถไม่ได้ต่ำเลย,พวกเขาไม่ได้ใช้เฉพาะกำลังอันป่าเถื่อนแล้ว,ทั้งชุดเกราะและอุปกรณ์ที่พวกเขาสวมใส่นั้นแทบไม่แตกต่างจากผู้เชี่ยวชาญเลย,
ที่งงงวยไปมากกว่านั้นพวกเขาที่แตกต่างไปจากเดิมทั้งที่ปรกติแล้วชนเผ่าเหล่านี้ไม่ค่อยมีอารยะธรรมอะไรนัก,ไม่มีความเฉลียวฉลาด,ดังนั้นจึงไม่ได้มีอาณาจักรของตัวเอง,สถานะของเผ่าเหล่านี้ค่อนข้างต่ำ,เป็นไปได้ว่ากองกำลังเหล่านี้เป็นกองกำลังผู้เชี่ยวชาญพันธมิตรแห่งป่าอย่างงั้นรึ?
เป็นไปได้ด้วยเหรอ.
ในเวลาเดียวกันหน่วยสอดแนมที่เข้ามารายงานในทันที,"องค์เหนือหัวราชาเหยี่ยวทมิฬ,กองกำลังของศัตรูได้มุ่งหน้าตรงมาหาพวกเราด้วยความเร็ว,คาดว่าอีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้,จะมาถึงอย่างแน่นอน."
"อะไรนะ?"
"เหลวไหล!"
ทุกคนที่ได้ยินถึงกับงงงวยใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน,กองกำลังที่มีเพียงแค่นิดเดียวไร้ซึ่งชื่อเสียง,กลับกล้าเข้าโจมตีกองกำลังหลักของอาณาจักรเหยี่ยวนรกก่อนเลยอย่างงั้นรึ?,พฤติกรรมเช่นนี้แทบจะไม่ต่างกับการแส่หาความตาย,นี่กล้าดูแคลนพลังต่อสู้ของอาณาจักรเหยี่ยวนรกรึอย่างไร!
แม้ว่าจะรับรู้ว่ากองกำลังเหล่านี้ดูผิดปรกติวิสัย,ทว่าราชาเหยี่ยวทมิฬก็ไม่พบเหตุผลใดที่จะไม่สู้,ทันใดนั้นก็ออกคำสั่งเตรียมเข้าปะทะศัตรูในทันที!
คลืนๆๆ!
เสียงกองรบที่เริ่มบรรเลงดังสนั่นไปทั่ว.
นี่คือกองกำลังระดับชาติของอาณาจักรเหยี่ยวนรก,และคนที่บัญชาการก็คือราชาเหยี่ยวทมิฬ,กองกำลังของพวกเขานั้นหลักๆแล้วเป็นกองกำลังทหารเคลื่อนที่เร็ว,โดยมีกองกำลังทางพื้นดินและกองกำลังทางอากาศ,ซึ่งกองกำลังทางพื้นดินนั้นจะนั่นปิศาจหมาป่า,และยังมีกองกำลังนักรบมังกรที่บ้าคลั่ง,ตลอดจนยังมีกองกำลังมังกรปีก,กองกำลังแร้งอสูร,นักรบเกราะหนักเองก็มีนักรบมังกรดิน,นักรบสัตว์อสูรและยังมีนักรบมังกรปีกคู่,และมีทหารเดินเท้าเกราะหนักอีกหลายหมื่นคน,ซึ่งเป็นแกนกลางของกองกำลังทั้งหมด.
"ศัตรูปรากฏแล้ว!"
กองกำลังอาณาจักรเหยี่ยวนรกที่เพิ่งเตรียมตัวเสร็จ,กองกำลังพันธมิตรแห่งป่าก็ได้ปรากฏขึ้นในสายตา,กองกำลงมากมายของอาณาจักรเหยี่ยนรกที่จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้ามถึงกับรู้สึกงงงวยขึ้นมา,เหมือนดังข้อมูลที่พวกเขาได้รับมา,กองกำลังดังกล่าวเป็นซีเหริ่นโม่และนักรบคนเถื่อน,เพียงแต่ว่าพวกเขามีอุปกรณ์และชุดเกราะที่แปลกประหลาด,เป็นอาวุธที่พวกเขาไม่เคยเห็นและเคยได้ยินมาก่อน.
ไม่ว่าจะเป็นซีเหริ่นโม่หรือนักรบคนเถื่อนพวกเขาต่างมีเกราะปกคลุมไปทั่วร่าง,หมวกเหล็กและชุดเกราะดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากของอาณาจักรอื่นๆ,พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนกับว่าถูกอาบไปด้วยโลหะ,ตั้งแต่หัวจรดเท้าถูกปกคลุมไปทั้งหมดเกือบ
90 เปอรเซ็น,ที่ด้านหน้าและด้านหลังที่ส่องแสงประกายเป็นพลังเวทย์จากแบตเตอรี่พลังเวทย์,ซึ่งเป็นพลังที่คอยสนับสนุนโล่พลังงานให้กับอุปกรณ์ของพวกเขานั่นเอง.
นี่คือเทคโนโลยีระดับสูงที่ยังยากที่จะผลิตออกมาเป็นจำนวนมากได้.
ชุดเกราะของกองกำลังเหล่านี้ดูซับซ้อนเป็นอย่างมาก,ร่างกายของพวกเขาที่ราวกับว่าเต็มไปด้วยอุปกรณ์ที่ไม่มีใครรู้จัก,มือทั้งสองข้างของพวกเขามีกระบี่พลังเวทย์และมือขวามีโล่พลังงาน,และที่แขวนที่เอวเองก็มีปืนพลังเวทย์,อื่นๆอีกมากมาย.
กองกำลังทั้งสองหมื่นคนนี้ได้กระจายเป็นกลุ่มคุ้มกันรถถังขนาดใหญ่หลายคน,ซึ่งรถถังเหล่านี้มีพลังงานสีน้ำเงินที่ส่องประกายขับเคลื่อนมา,นี่คือปืนใหญ่เครื่องยิงหนัก,และเครื่องยิงจรวด,ซึ่งเป็นอาวุธพลังงานที่ทรงพลังร้ายกาจเป็นอย่างมาก.
*******
ชนชั้นสูงของจีนยุคนั้นแบ่งเป็น
4 ชนชั้น
1.天子 (อ่านว่า-เทียนจื่อ)
(โอรสสวรรค์-กษัตริย์) ปกครอง 天下 (อ่านว่า-เทียนเซี่ย) หรือใต้หล้า
ซึ่งใต้หล้าก็มีแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาล จึงแบ่งแผ่นดินไปให้ ...
2.诸侯 (อ่านว่า-จูโหว)
(สามนตราช-กษัตริย์,เจ้าพระยา) ซึ่งอาจจะเป็นน้องชาย
ลูกพี่ลูกน้อง ญาติ หรือขุนนางที่มีคุณของ 天子 ไปปกครอง 国 (อ่านว่า-กว๋อ)
เรามักจะคุ้นในคำว่า "ก๊ก" นั่นเอง เราคงจะเคยได้ยินคำว่า วุยก๊ก จ๊กก๊ก
ง่อก๊กในสามก๊ก (วันหลังแอดมินจะมาอธิบายคำนี้เพิ่มเติมให้)
และในปัจจุบันคำนี้จะมีความหมายว่า ประเทศ
ผู้ปกครองมีสิทธิอำนาจสิทธิขาดในผืนดินที่ 天子 มอบให้ ในขณะเดียวกันพื้นที่ของ 国 เองก็อาจจะมีขนาดใหญ่มาก 诸侯 (อ่านว่า-จูโหว)
เองก็อาจจะปกครองไม่ไหวจึงแบ่งให้....
3.大夫 (อ่านว่า-ไต้ฟู)
ซึ่งอาจจะเป็นน้องชาย ลูกพี่ลูกน้อง ญาติ หรือขุนนางที่มีคุณของ 诸侯 (อ่านว่า-จูโหว) ไปปกครอง 家 (อ่านว่า-เจีย)
ในปัจจุบันคำคำนี้แปลว่า "บ้าน"
แต่ในยุคนั้นคือเขตหรือพื้นที่การปกครองหนึ่งในสมัยราชวงศ์โจว ที่ปกครองโดย 大夫 (อ่านว่า-ไต้ฟู)
และการแบ่งพื้นที่ลักษณะนี้เรียกว่า 分封制 หรือ "ระบบเฟินเฟิง"
และจะไม่มีการแบ่งพื้นที่ให้เล็กลงไปกว่านี้ แต่ 家 นั้นในภายหลังก็อาจมีสิทธิเลื่อนสถานะเป็น
国 (อ่านว่า-กว๋อ) ได้ อย่างเช่นรัฐฉินหรือแคว้นฉิน (秦国-ฉินกว๋อ)
เดิมที่ไม่ได้มีสถานะเป็น 国 แต่เป็น 家 (อ่านว่า-เจีย) มาก่อน
แล้วก็ปกครองกันต่อมาเวลาอีกร้อยกว่าปีถึงจนมาถึงสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้
ส่วนลูกๆหลานๆ หรือญาติของผู้ปกครองทั้ง 3 ชนชั้นก่อนหน้า ที่ไม่ได้มีอาณาเขตหรือพื้นที่ให้ปกครอง
ก็จะเป็น....
4.士 (อ่านว่า-สื้อ)
ซึ่งชนชั้นนี้ก็คือชนชั้นปัญญาชน และคำคำนี้ในปัจจุบันก็มีความหมายว่า
"บัณฑิต" ด้วย ชนชั้นนี้ก็จะไปเข้ารับราชการให้กับนายในพื้นที่ต่างๆ
ให้กับชนชั้นทั้ง 3 ก่อนหน้า หากรับใช้ 天子 (อ่านว่า-เทียนจื่อ) เป็นที่ถูกใจอาจถูกแต่งตั้งให้ไปเป็น
诸侯 (อ่านว่า-จูโหว) หรือ大夫 (อ่านว่า-ไต้ฟู) หรือถ้ารับใช้ 诸侯 (อ่านว่า-จูโหว)
เป็นที่ถูกใจก็อาจจะแต่งตั้งให้เป็น 大夫 (อ่านว่า-ไต้ฟู)
ที่มา https://www.facebook.com/learnchinesewithUTCC/posts/1783922718510694
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==> Click
-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น