วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

Miracle Throne Chapter 560 ancient demon remains

Miracle Throne Chapter 560 ancient demon remains  

 นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 560 ซากศพอสูรบรรพกาล.


Chapter 560 ancient demon remains 
ซากศพอสูรบรรพกาล.

ทะเลสีโลหิตนั้นคือแก่นโลหิตที่หลอมละลาย,แท่นบูชาของเผ่าสวรรค์จะทำการดูดซับพลังงานมาใช้อีกคราหนึ่ง,ช่วยในการเพาะปลูกสมุนไพรล้ำค่ามากมายซึ่งจะมีเอกลักษณ์พลังของเทพอสูรแฝงอยู่ด้วย.



การที่อาถูกบังเอิญได้รับยาสมุนไพร,ดังนั้นจึงทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนไปขนาดใหญ่,เวลานี้ร่างกายของเขาคล้ายคลึงเหมือนกับเสิ่นซีไปแล้ว,แน่นอนว่าอาจจะด้อยกว่าเสิ่นซีที่แท้จริง,ทว่าสิ่งที่เขาได้รับนั้นไม่เพียงแต่ได้รับความแข็งแกร่งของเทพอสูร,ซ้ำร่างกายยังได้รับการวิวัฒนาการไปอีกขั้นอีกด้วย.

สัมผัสเทวะที่ถูกปล่อยออกไป!

ฉู่เทียนที่ทำการสำรวจทะเลสีชาดนั้น,ทว่าสัมผัสเทวะของเขาที่ปล่อยลงไปในทะเลสีชาด,กลับหายไปไร้ซึ่งร่องรอย,ราวกับฟองน้ำที่ถูกซับพลังดังกล่าวให้หายไป,ทั่วทั้งทะเลสาบสีชาดที่ดูสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลา,ทันใดนั้นก็เกิดเป็นระลอกคลื่นขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา.

ใบหน้าของหลานซือโหลวเตอที่ดูจริงจัง,"ระวังด้วย,มีบางอย่างผิดปรกติ,บางทีไม่ควรที่จะไปแตะสิ่งดังกล่าว."

 บนทะเลสาบสีชาดนั้นค่อยๆปรากฏรูปร่างหลายร่างขึ้น,เป็นเหมือนกับรูปปั้นที่กำลังผุดขึ้นมาจากทะเลสาบเทวะ,พวกมันเป็นเหมือนกับปิศาจน่าเกียจ ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,มีสามหัวหกกร,ท่าทางดูร้ายกายจนถึงที่สุด,กลิ่นอายที่ปล่อยออกมานั้นไม่ธรรมดาเลย.

ดูเหมือนว่าเศษส่วนของดวงจิตที่เหลือของเทพอสูรหลังจากผ่านมานานหลายหมื่นปีก็ค่อยๆวิวัฒนาการไป,กลายเป็นอสุรกายโลหิตเทพบรรพกาล,ที่เป็นอสูรร้ายที่ร้ายกาจขึ้นมา.

เหมือนดังจิ้งจอกน้อยเอง ก็เกิดจากแก่นของโลหิตที่หลอมรวมกันจนวิวัฒนาการเกิดเป็นอสูรขึ้นมาเช่นกัน!

เมื่อเห็นอสุรกายเช่นนี้,ดวงตาของจิ้งจอกน้อยก็ตาโตขึ้นมาราวกับว่าได้พบเข้ากับยาชูกำลัง.

จิ้งจอกน้อยที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ฉู่เทียนบอกกล่าวก็ลงมือในทันที,มันได้พ่นควันสีม่วงจากปากของมัน,เหล่าอสุรกายโลหิตที่ถูกคลุมเอาไว้ข้างในทันที,ทว่ามันก็พยายามดิ้นรนเช่นกัน,ทว่าร่างของอสุรกายเหล่านั้นก็ถูกสลายหายไป,ค่อยๆบิดเกลียว,ท้ายที่สุดก็กลายเป็นหมอกโลหิต,ก่อนที่จะถูกกลืนเข้ามาภายในท้องของจิ้งจอกน้อย.

จากที่ดูแล้วเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก!

ฉู่เทียนที่คิดว่าจิ้งจอกน้อยสามารถจัดการได้,ทว่าก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น,ร่างกายของมันที่กลายเป็นสีแดงทั้งหมด,พร้อมกับจามออกมาไม่หยุด,พลังงานสีแดงที่กระจายไปทุกที่,นี่เป็นแค่เริ่มต้นเท่านั้น,ร่างของจิ้งจอกน้อยที่เต้นไปมาราวกับกินของเผ็ดเข้าไป,น้ำหูน้ำตาไหลออกมา,พร้อมกับจามไม่หยุด.

ไม่ได้การแน่!

ถึงแม้ว่าจะเป็นจิ้งจอกน้อย,ทว่าต้องไม่ลืมว่ามันยังไม่โตนัก,ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะดูดซับแก่นโลหิตของเทพอสูรได้ในเวลานี้!

ในเวลาเดียวกันปิศาจภายในทะเลโลหิตก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ,เวลานี้ในมือของพวกมันมีหอกและคันศร,ก่อนที่จะยิงมายังกลุ่มของฉู่เทียน,ปีกทมิฬที่สะบัดปีกออกไปทันที,ปีกซ้ายของเขาที่กวัดแกว่งออกมา,ราวกับว่ามีม่านพลังป้องกันขนาดใหญ่ป้องกันพวกเขาเอาไว้.

พรึด!

พรืดดด!

หอกและศรโลหิตถูกกระแทกกลายเป็นฝุ่นผงด้วยฝีมือของปีกทมิฬ,ทว่าไม่เพียงแค่เกิดระเบิดและเสียงสายฟ้าเท่านั้นที่ส่องประกายแปบๆ,ยังกลายเป็นกรดกัดกร่อนคละคลุ้งไปบนพื้นรอบๆ.

ปีกทมิฬมีความแข็งแกร่งมากและยังมีพลังที่แปลกประหลาดป้องกันไม่ให้พลังดังกล่าวเข้ามาใกล้.

ทว่าก็เกิดเป็นจุดสีแดงกระจายๆไปทั่วปีกซ้ายของเขา,พลังดังกล่าวราวกับว่าซึมหายไปทันที.

ใบหน้าของปีกทมิฬถึงกับเปลี่ยนเป็นขาวซีด,เขาที่พยายามที่จะต้านทานทว่าก็พบว่ามันได้ลุกเป็นไฟที่ลุกลามเข้ามาอย่างรวดเร็ว,เพลิงที่เผาไหม้พลังงานของเขาที่เพียงแค่สัมผัส,ลุกไหม้เร็วจนเกินจะต้านทาน,และยังมีความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย.

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

ปีกทมิฬที่รู้สึกราวกับว่าร่างกายของตัวเองควบคุมไม่ได้,พลังกัดกร่อนร่างกายของเขาน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,ราวกับว่ามันจะทะลวงผ่านเข้าไปในจิตวิญญาณ,พร้อมกับพยายามที่จะควบคุมความนึกคิดของเขาให้ได้.

ฉู่เทียนเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับปีกทมิฬ.

ทะเลสีขาดนี้ราวกับว่ามีพลังพันธนาการเหมือนกับของอสูร.

ฉู่เทียนที่ได้รับความรู้บางส่วนของเทพบรรพกาลจากหอคอยที่รัฐกลาง,ดังนั้นจึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทพอสูรโบราณในระดับหนึ่ง,เทพเจ้าและเทพอสูรนั้น,แม้ว่าจะดูคล้ายๆกัน,ทว่ากลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง,โลหิตเทพเจ้าสามารถที่จะชำระล้างคำสาบได้ทุกชนิด,ทว่าโลหิตของเทพอสูรนั้นจะช่วยเพิ่มพลังคำสาปให้รุนแรงยิ่งขึ้น,เพียงแค่หยดเดียวสามารถที่จะสังหารทุกสิ่งมีชีวิตจำนวนมากเพียงแค่พริบตาเดียว.

สภาวะของหนี่เตอหัวเกอในตอนนี้เป็นเพราะเขามีโลหิตของอสูรที่ไหลเวียนอยู่ในร่าง.

ด้วยโลหิตของอสูรที่เต็มไปด้วยพลังคำสาบที่ทรงพลัง,เป็นพลังที่สามารถกัดกร่อนร่างมนุษย์ให้สิ้นซาก,สามารถที่จะกัดกร่อนได้ทั้งพลังวิญญาณแม้แต่จิตวิญญาณก็ยากจะรอดพ้น,เพราะปีกทมิฬนั้นมีโลหิตของอสูรที่ไหลเวียนอยู่ทั่วร่าง,แม้ว่ามันจะทรงพลังมากมายก็ตาม,เมื่อต้องถูกโลหิตเทพอสูร,ก็จะทำให้เกิดการสูญเสียการควบควบคุมไปเนื่องจากความเข้มข้นของพลังคำสาบของเทพอสูร,ตอนนี้จึงแทบจะไม่ต่างกับหุนเชิดที่มีจิตสำนึกเท่านั้น.

หลานซือโหลวเตอปลดปล่อยภูติวิญญาณนาฬิกาทรายออกมาทันที,พร้อมกับพลังของกาลเวลาอาบไปทั่วร่างของปีกทมิฬ,พลังของโลหิตเทพอสูรก็ค่อยๆถูกผลักดันออกไปในทันที,ก่อนที่ปีกทมิฬจะกลับมาควบคุมร่างตัวเองได้.

"เป็นพลังที่ชั่วร้ายมาก!"ปีกทมิฬถึงกับเป่าปาก,พร้อมกับถอยออกมาทันที,พร้อมกับรู้สึกเลือนลาง,"พวกเราไม่สามารถสัมผัสกับการโจมตีนั่นได้,ไม่เช่นนั้นอาจจะได้รับผลร้ายตามมา!"

อสุรกายเหล่านั้นยังคงโจมตีมาไม่หยุด,พลังต่อสู้ของพวกมันนั้นไม่ได้แข็งแกร่งนัก,เป็นเพียงแค่ระดับภูติแท้ระดับภูติสวรรค์เท่านั้น,ทว่ากลับมีจำนวนมากมายนับไม่น้อยที่ผุดขึ้นมาไม่หยุด,ซ้ำหากว่าถูกร่างกายของพวกเขา,โลหิตปิศาจในร่างของพวกเขาก็จะเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาในทันที.

เหล่ยนูที่คำรามลั่นบนแขนของเขามีสายฟ้าหลายร้อยสาย,ก่อนที่จะรวมตัวกันกลายเป็นตาข่ายพลังสายฟ้า,ปกคลุมไปทั่วทั้งทะเลสาบสีชาดทันที,พลังของเหล่ยนูที่กระจายไปรอบๆนั้นพร้อมที่จะแยกชิ้นส่วนของเหล่าอสูรกายที่มากมายที่ล่องลอยอยู่บนผิวทะเลสาบโลหิตในทันที.

สายฟ้าเทพยักษา,ไม่ใช่สายฟ้าทั่วไปที่จะสามารถนำมาเทียบได้.

นี่คือสายฟ้าที่ได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษของเผ่ายักษา,เทพยักษาสายฟ้านั้นมีพลังสายฟ้าตั้งแต่เกิดมา,เหล่ยนูเองที่ฝึกฝนวิชามาหลายพันปี,พลังสายฟ้าของเขาแม้แต่มังกรยักษ์ ยังยากที่จะทนการโจมตีตรงๆของมันได้.

ใครจะรู้ในเวลานั้น,อสุรกายสีชาดที่อ้าปากพ่นเปลวเพลิงกระแทกตาข่ายสายฟ้า,แม้ว่าจะไม่ทำให้สายฟ้าของยักษาถึงกับระเหิดหายไป,ทว่าพื้นที่รอบๆก็ได้กลายเป็นหมอกโลหิต,ทำให้ประกายแสงของสายฟ้ากำลังแปรเปลี่ยนเป็นสีชาดไปแล้ว.

เหล่ยนูเองก็พบว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมสายฟ้าได้เช่นกัน,ตาข่ายสายฟ้านั้นทรงพลังมาก,ประกายแสงแปบๆของสายฟ้าตอนนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นสีแดงชาด,กลายเป็นสายฟ้าแบบใหม่,ตาข่ายสายฟ้าของเหล่ยนูในเวลานี้,ได้กลายเป็นสายฟ้าโลหิตที่มีขนาดใหญ่โตขึ้นยิ่งกว่าเดิมซะอีก.

เหล่าอสุรกายยังคงพ่นเพลิงโลหิตออกมาไม่หยุดหย่อน.

พวกเขาที่โจมตีออกไปไม่หยุด,ทว่ากลับกลายเป็นว่าได้ไปเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเหล่าอสุรกายเหล่านั้นให้แข็งแกร่งมากขึ้น.

มือทั้งสองข้างของปีกทมิฬในเวลานี้ควบรวมเพลิงมังกรแห่งความตายพร้อมกับปล่อยออกไปยังเหล่าอสูรกาย,หนึ่งในสามที่ระเหิดไปส่วนอื่นๆซึมเข้าไปยังร่างอสุรกายโลหิต,เปิงเจาเองก็ปล่อยพลังกงเล็บทะลวงไปยังเหล่าอสูรกายเหล่านั้น.

ไร้ซึ่งผลกระทบใดๆทั้งสิ้น.

หลังจากที่เหล่าอสุรกายโลหิตที่รับการโจมตีนับไม่ถ้วน,ทั้งพลังจากปีทมิฬ,เปิงเจา,ก็ทำให้พวกมันทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ.

หลานซือโหลวเตอที่ตะโกนออกไปในทันที,"หยุด,การโจมตีของพวกเราไร้ผล,มีแต่ทำให้มันทรงพลังมากยิ่งขึ้น!"

ปีกทมิฬ,เหล่ยนูและเปิงเจาขมวดคิ้วเข้าหากัน,พวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้,สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เหนือล้ำเกินกว่าที่จะจินตนาการถึงไดผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ระดับสุดยอดร่วมมือกันคาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย.

เปล่าปิศาจสีชาดที่ค่อยๆรวมตัวกันเติบโตขึ้น,มันได้ดูดซับพลังของปีกทมิฬ,เหล่ยนูและเปิงเจาเข้ามา,ตอนนี้พลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด.

พวกเขาจะต้องถอยรึ?

"ข้ามีวิธี,ข้าจะจัดการเอง!"

ขณะที่ทุกคนกำลังงงงวยอยู่นั้น,ฉู่เทียนที่นำคัมภีร์เรียก 18 เสิ่นซีออกมา,ก่อนที่ร่างของเสิ่นซีทั้ง 18 ตนลอยออกไป,ร่างกายที่ส่องประกายแสงสีทองทั่วร่าง,พร้อมกับมีอาคมมากมายกำลังหมุนวน,ร่างของมันที่ปล่อยอักระพันธนาการออกมาอย่างคาดไม่ถึง.

"ผนึกทะลวงปิศาจ!"

อักระพันธนาการขนาดมหึมาที่ถูกปลดปล่อยจาก 18 เสิ่นซี,สร้างเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้น,ร่างกายที่ใหญ่โตของอสุรกายราวกับภูเขาน้ำแข็งร่างกายของพวกมันแตกสลายออกมาในทันที,กลายเป็นเศษซากมากมายล่วงหล่นลงมาไม่หยุด,จมลงไปในทะเลสาบสีชาดหายไปในทันที.

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ปีกทมิฬและคนอื่นๆไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย,อสุรกายตนนั้นพวกเขาไม่สามารถจัดการได้,ทำไมหุ่นเชิดที่มีพลังกระจิดริดของฉู่เทียนกลับทำลายได้อย่างง่ายดาย.

เสิ่นซีของฉู่เทียนนั้นถูกหลอมขึ้นมาจากโลหิตของเทพบรรพกาล.

แม้ว่าจะดูเหมือนไม่ได้มีพลังที่แข็งแกร่งนัก,ทว่าทั่วร่างของเสิ่นซีนั้นมีพลังของเทพบรรพกาลไหลเวียนอยู่,ดังนั้นโลหิตของอสูรไม่มีทางที่จะกลัดกร่อนพวกมันได้,ทุกการโจมตีของมันเองก็มีพลังของเทพบรรพกาลที่ถูกปล่อยออกไปด้วย,สามารถที่จะจัดการโครงสร้างของปิศาจสีชาด,สร้างความเสียหายกับพวกมันได้โดยง่าย.

เสิ่นซีที่กลับมาอยู่ข้างๆของฉู่เทียน.

ตอนนี้อสุรกายสีชาตินั้นถูกสังหารแค่ชั่วคราวเท่านั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกสังหารได้อย่างราบคราบ,พวกมันสามารถฟื้นกลับมาได้ตลอดเวลา,ภายในดินแดนแห่งนี้ไม่มีคำว่าตายนั่นเอง.

ฉู่เทียนกล่าว,"เสิ่นซีนั้นไม่ได้หวาดกลัวการโจมตีจากโลหิตอสูร,ทว่าพวกมันก็ยังอ่อนแอจนเกินไป,พวกเราไม่สามารถที่จะจัดการพวกมันทั้งหมดได้อย่างราบคาบ,ข้าอยากให้พวกท่านช่วยข้าเปิดทางลงไปสู่ด้านล่างเพื่อตรวจสอบว่ามันมีศพของเทพอสูรจริงหรือไม่!"

ปีกทมิฬ,เหล่ยนู,เปิงเจาและราชาเอลฟ์,คนทั้งสี่ที่ปลดปล่อยพลังออกมาพร้อมๆกัน,พร้อมกับแยกผืนทะเลสาบโลหิตออกมา,ฉู่เทียนที่บังคับเสิ่นสีเข้าไปในทันที.

ศพของปิศาจบรรพกาลนั้นถูกผนึกอยู่ใต้ทะเลสีชาด,ทว่าโลหิตและเลือดเนื้อของมันได้ละลายหลอมรวมเข้ากับทะเลสาบสีชาติไปแล้ว,ฉู่เทียนที่ราวกับว่าลงมาเสียงเวลาเปล่า,ทันใดนั้นเขาก็ได้พบเข้ากับบางอย่างใต้ทะเลสาบ,มันเป็นผลึกสีเขียวเข้มที่ตกผลึกไปแล้ว.

กระดูกของอสูรบรรพกาล.

ตอนนี้มันได้หลอมรวมเข้ากับศิลาคลิสตัลไปแล้วรึ?

ฉู่เทียนที่ไม่ปล่อยให้เสียเวลา,ได้สั่งการให้เสิ่นซีตักเอาผลึกคลิสตัลในทันที,เวลานั้นค่อนข้างจำกัด,ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ย่อมไม่สามารถที่จะรักษา การแหวกทะเลโลหิตได้นาน,นอกจากนี้อสุรกายโลหิตอาจจะฟื้นกลับมาได้ทุกเมื่อ.

คงจะทำได้แค่เพียงเท่านี้.

"เก็บเกี่ยวได้แล้ว,พวกเราถอนกำลัง!"

ฉู่เทียนที่ห่อกระดูกคลิสตัลของเทพอสูรกลับออกมา,พร้อมกับใช้พลังมิตินำทุกคนออกมาจากถ้ำแห่งนี้,กลับมายังตำหนักใต้ดินทันที,แม้ว่าจะไม่สามารถเก็บเก็บเกี่ยวเซ็นเหยาได้ก็ตาม,ทว่าการได้รับกระดูกผลึกกลับมานั้น,ก็นับว่าไม่เสียเปล่าทีเดียว.


สิ่งดังกล่านี้คือส่วนหนึ่งของปิศาจบรรพกาล,ในทวีปนี้หายากมากๆ,ถึงแม้ว่าจะเป็นปีกทมิฬและคนอื่นๆยังไม่รู้เลยว่าสามารถใช้ทำอะไรได้,ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้คิดที่จะของแบ่งปันซึ่งได้ให้ฉู่เทียนนำไปวิจัยทั้งหมดนั่นเอง.





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น