วันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 117 Complete return

Miracle Throne Chapter 117 Complete return

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 117   สำเร็จภารกิจ


บทที่ 117   สำเร็จภารกิจ


วิชาบำเพ็ญที่เป็นศาสตร์การลอบสังหารนั้นนับว่าเป็นทักษะที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก,และเป็นทักษะที่เน้นไปที่การสังหารฝ่ายตรงข้ามในดาบเดียว,

ด้วยการลบตัวตนทำให้เป้าหมายมองไม่เห็น,ซ้ำเมื่อเข้าโจมตีก็เป็นการตัดสินกันเพียงแค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้น

ถึงฉู่ถงเหวินจะรู้สึกประหลาดใจ,ทว่าเขากลับแค่นเสียงเย็นชาออกมา.

"คิดว่าจะสามารถหลบพ้นจากสายตาของข้าได้อย่างงั้นรึ?"


"อย่าให้เอ่ยถึงเลยว่าเจ้าเด็กเวรเช่นเจ้า,ถึงแม้ว่าจะเป็นหว่านอู๋ยี่มาเองถึงจะสำเร็จวิชาบำเพ็ญขั้นสามประสบผลที่ใหญ่ยิ่งเป็นเอกลักษณ์ แล้วยังไง,ต้องการจะมาลอบสังหาร คนเช่นข้านั้นมันไม่ง่ายหรอก!ข้าจะให้เจ้าได้เห็นความร้ายกาจของภูติวิญญาณตำราทองเจ็ดหน้าของข้า!"

ดูเหมือนว่าเขานั้นไม่ได้หวั่นเกรงอะไรเลย.

ทั่วทั้งร่างของเขาปลดปล่อยพลังสีทองสว่างจ้าเข้มข้นขึ้นมาในทันที.

ภูติวิญญาณตำราทองเจ็ดหน้าก็ลอยขึ้นสูง อักษรรูนมากมายถึงกับไหลพวยพุ่งออกมา,ก่อนที่จะเปิดไปอีกหลายหน้า,ปรากฏรูปร่างของดวงตาที่กระพริบตาไปมาบนหน้าตำราดังกล่าว.

"เนตรมายาสีทอง!"

ฉู่ถงเหวินตะโกนออกมาเสียงดัง,บนดวงตาทั้งสองข้างของเขานั้นปรากฏอักษรรูนมากมายปรากฏขึ้น,นี่คือทักษะหนึ่งของภูติวิญญาณตำราทอง,ดวงตาของเขานั้นเบิกกว้างและหรี่ตาพร้อมกับปล่อยแสงที่เข้มข้นออกมา,ปกคลุมไปทั่วดวงตาข้างใน,จนมองดูคล้ายกับว่าดวงตาของเขากลายเป็นหลอดไฟที่สว่างจ้า,ปล่ดปล่อยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา.

ดวงตาคู่นี้นับว่ามีพลังที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก.

หากเป็นสัตว์ประหลาดประเภทภูติผีล่ะก็,เพียงแค่เขาจ้องตามอง,ภายใต้ดวงตาเทวะแสงสีทองที่ส่งออกมานี้ สามารถสลายร่างของมันให้หายไปในทันที.

นอกจากนี้,ดวงตาคู่นี้ยังมีพลังตรวจจับที่แข็งแกร่งทรงพลังที่สุด,มันสามารถทำลายภาพลวงตา,มองเห็นทุกอย่างที่ซ่อนอยู่,นับว่าเป็นทักษะที่น่าพรั่นพรึงยิ่งนัก.

ฉู่ถงเหวินที่มีความสามารถหลากหลาย,ทั้งโจมตีและป้องกัน,ทักษะต่อสู้ระยะประชิด,ตรวจจับและรักษา,แทบจะไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้,ดังนั้นการที่จะประลองกับเขานี้ มีน้อยคนที่จะต่อกรเขาได้.

เมื่อฉู่ถงเหวินใช้วิชาดังกล่าวออกมาแล้ว,เขามั่นใจยิ่งนัก,ทันใดนั้นขณะที่เขามองออกไป ถึงกับตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก!

เงาที่เลือนลางสีเทาหม่นปรากฏขึ้นเต็มไปหมดรอบๆทิศทั้งสี่,แปรเปลี่ยนไปมาไม่หยุดหย่อน,ไม่สามารถที่จะจับร่องรอยใดๆได้เลย,ไม่มีทางที่เขาจะมองการเคลื่อนไหวออกเลยแม้แต่น้อย.


บัดซบ!

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?

ถึงแม้ว่าจะเป็นวิชาลับกระบี่น้ำแข็งของหว่านอู๋ยี่ที่สำเร็จขั้นที่ 3 ประสบผลที่ใหญ่ยิ่งเป็นเอกลักษณ์,เขายังสามารถแยกแยะร่องรอยและมองการเคลื่อนไหวออกได้.

วิชาบำเพ็ญของชายคนนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่ายังไปไม่ถึงขั้นที่ 3 ประสบผลที่ใหญ่ยิ่งเป็นเอกลักษณ์ ด้วยซ้ำ,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถซ่อนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ,ถึงแม้ว่าจะเป็นฉู่ถงเหวินยังไม่สามารถที่จะจับตำแหน่งได้อย่างแม่นยำเลย,จวบจนถึงตอนนี้,ฉู่ถงเหวินไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน!

กระบี่เพลิงอเวจีช่างมีพลังที่ร้ายกาย ไร้เทียมทานจริงๆ!

เมื่อทักษะนี้ได้ถูกใช้ออกมา,ราวกับว่าทุกคนได้เข้าไปอยู่ในดินแดนอเวจี,ที่ยากจะสามารถค้นหาร่องรอยอะไรได้!

ฉู่เทียนในตอนนี้,ราวกับความมืดมิด เขาได้กลายเป็นเทพแห่งความตายที่มีกลิ่นอายเปื้อนกระจายไปทุกหนทุกแห่ง,สามารถที่จะเข้าโจมตีจากทิศทางใหนก็ได้,ทำไห้ทุกคนที่อยู่ภายในเขตแดนของเขาไม่สามารถที่จะต้านทานอะไรได้เลย!

"ไม่ดีแล้ว!"

ฉู่ถงเหวินสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจ,เขาได้เปิดใช้งาน ระฆังมังกรคุ้มกายในทันที.

ด้วยทักษะของเขาสามารถใช้ได้วิชาละครั้งทำให้ต้องปลดการใช้งานเนตรมายาสีทอง,เพื่อเปิดใช้งานทักษะป้องกันแทน.

ภายใต้เกราะลำแสงสีทองที่คุ้มกายเขาอยู่นั้น,ปรากฏลำแสงกระบี่อเวจี,ที่ปะทุจิตสังหารที่หนักหน่วงออกมา!

ประกายแสงของกระบี่ได้รวมเข้ากับเปลวเพลิงภูติอเวจีเกิดเป็นรอยขนาดเล็กก่อนที่จะค่อยๆลามไหม้เกราะสีทอง.


พรึบๆๆ!

เกิดเป็นรอยขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาบนเกราะป้องกันสีทอง.

หลังจากประกายแสงของกระบี่ได้หยุดลง,ถึงจะเกิดเป็นรอยขนาดใหญ่แต่ถึงอย่างนั้น เปลวเพลิงภูติอเวจีก็ยังคงทรงตัวอยู่,มันกัดกินเกราะป้องกันสีทองเข้าไปลึกพอสมควร,ทำให้เกราะป้องกันสีทองเปลี่ยนเป็นสีดำเล็กน้อย

ฉู่ถงเหวินที่หลั่งเหงื่ออันเย็นเยือบออกมา,แต่กระนั้นเขาเขาก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อย"ชิๆ,ก็แค่ระดับทั่วๆไป,วิชากระบี่ของเจ้าไม่สามารถทะลวงเกราะป้องกันของข้าได้อย่างแน่นอน!"

ไม่ว่าจะเป็นวิชาลอบสังหารของนักฆ่าจะด้วยกระบวนท่าใดก็ตาม.

จำเป็นที่จะต้องค่อยๆรวบรวมพลังอย่างช้าๆและจะปลดปล่อยออกมาโจมตีเป้าหมายเพียงครั้งเดียว!

ในเมื่อการโจมตีที่ปล่อยออกมานั้นไม่สามารถทะลวงพลังป้องกันฝ่ายตรงข้ามได้,นั่นก็หมายความว่าการลอบโจมตีนี้มีระดับต่ำจนเกินไป จนล้มเหลวนั่นเอง.

ภูติวิญญาณกระบี่เทพมารของฉู่เทียนและยังมีเพลงกระบี่ที่แข็งแกร่ง,ยากที่จะสามารถจินตนาการถึงพลังทำลายในแต่ละการฟันลงมาได้,อย่างไรก็ตามด้วยพลังฝึกตนของเขานั้นต่ำเกินไป,นั่นก็หมายความว่าเขาไม่สามารถที่จะทะลวงวิชาป้องกันของเขา,ฉู่ถงเหวินที่มีพลังฝึกตนแข็งแกร่งกว่า เข้ามาได้.

หากว่าเจ้าเด็กเวรนี้มีพลังปลุกดวงจิตระดับ 2 ล่ะก็,บางทีข้าคงไม่ใช่คู่มือมันแน่!

ฉู่ถงเหวินรู้สึกกระวนกระวายอยู่อีกนานเหมือนกัน.

วูซซซซ!

เกิดประกายกระบี่ขึ้นมาทันทีมันถูกปลดปล่อยฟาดฟันทิ้งรอยบนพื้นครั้งแล้วครั้งเล่ากระจายออกไปทั่วบริเวณรอบฉู่ถงเหวิน,ทุกๆรอยของคมกระบี่จะมีเปลวเพลิงภูติอเวจีถูกทิ้งเอาไว้ซึ่งเป็นรอยที่มีเพลิงสีขาวน้ำเงินลุกไหม้ที่เหมือนจะไม่มอดดับ,และรอยที่ตัดผ่านกัน,ยังช่วยหนุนเหลวเพลิงให้ลุกโชนขึ้นมาอีกด้วย.

ฉวั๊ว!

คมกระบี่เส้นหนึ่งสับมายังเกราะทองคุ้มกายของฉู่ถงเหวินอีกครั้ง!

ทิ้งรอยไหม้ขึ้นมาทันที,ก่อนที่ประกายของแสงกระบี่เส้นที่สองจะฟันเข้ามาอีกครั้ง,เปลวเพลิงกัดกร่อนของทั้งสองเริ่มลุกไหม้หนุนกันและกัน,มากขึ้นและมากขึ้น,ส่งผลให้พลังป้องกันของเกราะสีทองเริ่มอ่อนลง.

รอยฟันกระบี่ที่สาม.

รอยฟันกระบี่ที่สี่!

แทบจะไม่มีใครสามารถมองตามการเคลื่อนไหวการฟันได้เลย,รับรู้ได้แค่เพียงประกายแสงกระบี่ในเสี้ยววินาทีก่อนที่เห็นรอยฟันถูกทิ้งเอาไว้!

ร่างกายของฉู่เทียนนั้นไมรู้ว่าไปอยู่ที่ใหน,มีแค่เพียงประกายของกระบี่ที่ถูกปล่อยออกมาทุกทิศทุกทาง,จากในทิศที่ต่างกัน,สับไปยังพลังป้องกันของฉู่ถงเหวินอย่างบ้าคลั่ง.

สาม,สี่,ห้า.....
 เกราะทองคุ้มกายของฉู่ถงเหวินเริ่มมีรอยขนาดใหญ่ขึ้นและก็ใหญ่ขึ้น,ด้วยเปลวเพลิงภูติอเวจีที่สามารถใหม้พลังป้องกันได้,ซ้ำยังหนุนนำจากรอยฟันที่กำลังปล่อยออกมาเป็นชุดไม่หยุดหย่อน,
เป็นไปไม่ได้!
ก็เห็นอยู่ว่ามันเป็นศาสตร์การลอบโจมตี!
แต่กับฟาดฟันออกมาไม่หยุดราวกับสายน้ำไหลเช่นนี้ ทำเช่นนี้ได้ด้วยอย่างงั้นเหรอ!
มากขึ้นและก็มากขึ้นประกายแสงของคมกระบี่ยังคงถูกปล่อยออกมาฟาดฟันไปยังเกราะป้องกันของฉู่ถงเหวินไม่หยุดหย่อน.
 "ไม่!"
"ไม่!"

จนท้ายที่สุดเกราะทองคุ้มกันของฉู่ถงเหวินก็ระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ!
ร่างกายของฉู่ถงเหวินสั่นสะท้าน,พ่นโลหิตออกมาคำโต!
 ก่อนที่ประกายแสงแห่งความตายได้ดูดเปลวเพลิงสีขาวน้ำเงินมารวมตัวกัน เป็นการรวบรวมลำแสงการฟันในครั้งต่อไป,ประกายกระบี่เส้นนี้ถูกเล็งเป้าไปยังหน้าผากของฉู่ถงเหวิน.
การโจมตีในกระบวนท่าต่อไปนี้,หากว่าเข้าปะทะเป้าหมายล่ะก็!

แน่นอนว่าหน้าผากของฉู่ถงเหวินคงหนีไม่พ้นชะตากรรมถูกแยกออกมาเป็นเสี่ยงๆแน่นอน!

"ยั้งกระบี่! ไว้ชีวิตด้วย!"

เสียงที่โหยหวนดังก้องกังวาน,เป็นแม่ทัพซ่งที่ตะโกนออกมา,พร้อมกับปลดปล่อยพลังวิญญาณที่รุนแรงหนักหน่วงหลอมรวมกับเสียงตะโกนแทรกมาในอากาศด้วย,ทำให้ร่างกายของฉู่เทียนที่ซ่อนตัวอยู่เผยร่างออกมา จากสภาพหายตัว.

มือของเขาที่กุมกระบี่ยาวส่องประกายแสงนุ่มนวลราวกับน้ำแข็ง,และมีเปลวเพลิงสีน้ำเงินขาวลุกไหม้อยู่.

ตำแหน่งของกระบี่นั้นอยู่ห่างออกไปจาก,หน้าผากของฉู่ถงเหวินเพียงแค่ 2-3 เซ็นติเมตรเท่านั้น.

ฉู่ถงเหวินตื่นตระหนกขวัญหนีดีฝ่อ มันเจาะชอนไชทะลวงไปถึงจิตวิญญาณของเขาเลยทีเดียว.

แม่ทัพซ่งที่เดินออกมาพร้อมกับกล่าวออกไปว่า"ในเมื่อผลลัพธ์ก็ออกมาแล้ว,ตอนนี้เจ้าควรจะพอแค่นี้เถอะ,ฉู่ถงเหวิน,เจ้าควรจะเข้าใจได้ถึงความแข็งแกร่งของสหายน้อยคนนี้ได้แล้ว,เจ้ายังมีสิ่งใดที่อยากจะพูดอีก?"

ฉู่ถงเหวินเผยความโกรธเกรี้ยวหน้าดำเขียว"ชิ!ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ!"

เขาเสียหน้าอย่างหนักจนไม่สามารถจะทนได้อีกต่อไป,เร่งรีบหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้ในทันที.

ใบหน้าของฉู่เทียนนั้นขาวซีดราวกับกระดาษ,เขาได้ใช้ทักษะลับเพลงกระบี่อเวจี และทักษะเพลิงผลาญอเวจีเชือดเฉือน!,ซึ่งได้ผลาญพลังวิญญาณมหาศาลทีเดียว,ด้วยพลังวิญญาณที่ใช้เกินขีดจำกัดในตอนนี้,แทบจะทำให้เขานั้นทรงตัวไม่อยู่.

การจัดการผู้เชี่ยวชาญระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 3 นับว่าตรึงมือทีเดียว.

พลังวิญญาณของฉู่ถงเหวินนั้นมีมากมายกว่าฉู่เทียน,หากว่าเขาสามารถต้านการโจมตีกระบวนท่าสุดท้ายของฉู่เทียนได้ล่ะก็,ใครจะชนะหรือพ่ายแพ้ยังไม่สามารถบอกได้เลย,อย่างไรก็ตามฉู่เทียนตอนนี้รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก,ผ่านมาเมื่อสักครู่วิชาบำเพ็ญ <<กระบี่เพลิงอเวจี>>!ได้สำเร็จขึ้นที่ 1 สำเร็จดินแดนขนาดเล็กไป เรียบร้อยแล้ว,ส่งผลให้พลังกดดันที่หนักหน่วงจากโบราณกาลของเพลิงกระบี่ได้ถูกปลดปล่อยออกมา,ในอนาคตข้างหน้ามันจะมีพลังไม่ด้อยไปกว่าวิชาบำเพ็ญ <<กายานิรันดรโอบแสงดารา>>เลยแม้แต่นิดเดียว.

แม่ทัพซ่งคนนี้ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาเหนือกว่าฉู่ถงเหวิน!

ไม่เช่นนั้นแล้ว ถึงเขาจะตะโกนออกมาอย่างไรก็ตาม,ไม่มีทางที่จะหยุดการโจมตีของฉู่เทียนเอาไว้ได้แน่!

แม่ทัพซ่งจ้องมองฉู่เทียนด้วยสายตาที่ยอมรับ"อย่าได้ตำหนิข้าเลยนี้ก็เพื่อปกป้องเจ้าด้วย,การสังหารฉู่ถงเหวินนั้น ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นมา มีแต่จะทำให้เจ้าได้รับอันตราย!เบื้องหลังของชายคนนั้นคือฉู่ซิงเหอ!"

"ฉู่ซิงเหอ?"

นามนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยิน.

"เจ้านับว่าแข็งแกร่งทีเดียว,ทว่ายังไม่ถึงเวลามันยังเร็วเกินไปที่เจ้าจะเทียบกับฉู่ซิงเหอได้!"แม่ทัพซ่งได้ยื่นมือให้ฉู่เทียนเพื่อประครองเข้าลุกขึ้น"เจ้าเองก็กำลังจะถึงขีดจำกัดแล้ว,ข้ากล่าวถูกใช่ใหม?"

"แล้วมันอย่างไรล่ะ?"

"ในอดีตนั้น,ฉู่ซิงเหอที่ใช้พลังเพียงแค่ระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 1 ในการโจมตีเดียวก็สามารถทำลายพลังป้องกันของฉู่ถงเหวินได้!"

ทันทีที่ได้ยิน หลินมู่และฟางหาน รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก!

น้องลู่ที่โจมตีฉู่ถงเหวินนั้น,ต้องใช้เพลิงกระบี่ถึงหกกระบวนท่า,เพียงเท่านี้ก็แทบจะไม่สามารถจินตนาการได้แล้วว่าเป็นพลังที่สามารถที่ขัดขืนลิขิตสวรรค์,ไม่คาดคิดเลยว่าฉู่ซิงเหอมีพรสวรรค์สัตว์ประหลาดที่สูงกว่าอย่างงั้นเหรอ!

"แน่นอนนับตั้งแต่นั้นมา,ฉู่ถงเหวินก็ติดตามฉู่ซิงเหอมาหนึ่งปีแล้ว,ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่ใช่ว่าใครจะเอาไปเทียบได้,หากมีระดับเท่ากันคงสู้เขาไม่ได้,ความสามารถของเจ้าในตอนนี้,ยังอ่อนด้อยเกินไปที่จะเทียบกับฉู่ซิงเหอ,ต้องไม่ลืมว่าเขานั้นเป็นถึงอันดับหนึ่งของสี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง,ซ้ำยังมีวิชาบำเพ็ญโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาอีก,วิชาบำเพ็ญของเขานั้นมีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งในด้านพลังโจมตีมีชื่อเสียงที่สุดในรัฐกลางแห่งนี้ก็ว่าได้!"

แข็งแกร่งยิ่งนัก!

สมแล้วจริงๆที่เป็นหนึ่งในผู้เยาว์ที่มากพรสวรรค์ที่สุดในรัฐกลางแห่งนี้.

หลินมู่และฟางหานแน่นอนว่าเขาไม่มีทางขัดขืนได้เลยแม้แต่น้อย.

"นิสัยของฉู่ซิงเหอนั้นกดขี่ข่มเหงเอาแต่ใจ,เขาไม่มีทางที่จะปล่อยให้มีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้นได้เลย,ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกน้องเขาเช่นกัน,ฉู่ถงเหวินที่พ่ายแพ้ต่อผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 1 ,เรื่องเช่นนี้เขาคงไม่กล้ารายงานออกไปแน่นอน."

ก่อนที่แม่ทัพซ่งจะกล่าวต่อไปว่า.

"แน่นอน,แม้แต่ตัวข้าฉู่ถงเหวินยังยโสโอหังใส่เลย,ไม่คิดจริงๆว่าจะมาพ่ายแพ้ต่อเจ้า"
!

จะอย่างไรก็ตาม!

จริงๆแล้วฉู่เทียนไม่ได้หวาดกลัวฉู่ซิงเหอแม้แต่น้อย.

เขาที่กล้าแม้แต่สับแขนของเย่เทียนหลาง,พร้อมกับยั่วยุเย่อู๋เต๋า,มีเหรอที่เขาจะต้องกลัวฉู่ซิงเหอ.

ความแข็งแกร่งของฉู่ถงเหวินนั้นก็ธรรมดาสามัญ,เขาเชื่อว่าในเวลาอีกไม่นาน,ก็ไม่สามารถมาอยู่ในสายตาของเขาแน่นอน,หรือจะเป็นใครก็ตามก็จะไม่สามารถคุกคามเขาได้,เพราะเหตุนั้นเขาจึงหาได้ใส่ใจว่าคนๆนี้จะเป็นใครก็ตาม!

ฉู่ซิงเหอเองก็ขัดแย้งกับเขาอยุ่แล้วไม่ว่าจะเร็วหรือช้าก็ต้องแตกหักกันอยู่ดี,เพียงแค่ตอนนี้พลังฝึกตนของเขานั้นยังต่ำเกินไป,จึงยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมก็เท่านั่นเอง.

"ต้องของคุณแม่ทัพซ่งมาก!"

"ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ,เจ้าเองได้หยุดการคืนชีพของลัทธิปิศาจสวรรค์เอาไว้ได้,เจ้าเองควรที่จะได้รับรางวับตอบแทนมากกว่า,เชิญเจ้าบอกมาได้เลย,หากว่าไม่เหนือบ่ากว่าแรงข้าย่อมสามารถทำให้กับพวกเจ้าได้อย่างแน่นอน!"

ฉู่เทียนนั้นไม่ได้ต้องการสิ่งใดแล้ว,นอกจากนี้เขายังไม่สะดวกที่จะเปิดเผยสถานะที่แท้จริงออกไป,ดังนั้นเขาจึงได้กล่าวออกไปอย่างเจียมตัวว่า"ความกรุณของแม่ทัพซ่งนั้น,พวกเราคงทำได้แต่ขอบคุณ,ทว่าข้าเองก็ได้เก็บเกี่ยวเป็นจำนวนมากแล้ว,ดังนั้นจึงไม่ต้องการรางวัลอะไรอีก."

สินค้าที่เป็นสมุนไพรมีประโยชน์จิ้งจอกน้อยก็ได้กินเป็นอาหารไปหมดแล้ว.

ส่วนสิ่งของอื่นๆทั่วไปหลินมู่และฟางหานเองก็ได้เคลื่อนย้ายไปเป็นส่วนมากแล้ว.

แม่ทัพซ่งโบกมือเป็นเป็นพัลวัล,"ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการรางวัล,เอาอย่างนี้เป็นอย่างไร,เจ้ากลับรัฐกลางกับข้า,ข้าจะแนะนำเจ้าให้เป็นขุนพลแนวหน้าเป็นอย่างไร?เจ้าจะมีอำนาจที่แท้จริงและกลายเป็นผู้บัญชาการมีทหารในบัญชา 50,000 นายด้วย!"

หลินมู่และฟางหานถึงกับตื่นตระหนก.

เป็นขุนพลทัพหน้าเลยอย่างงั้นรึ?

แม่ทัพซ่งช่างเป็นคนที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเป็นอย่างมาก!

แม่ทัพซ่งนั้นสามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของฉู่เทียน,เห็นได้ชัดเจนว่ามันน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก,ดังนั้นเขาจึงรู้สึกชื่นชมเลยทีเดียว,จึงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะมอบตำแหน่งระดับสูงให้เขา,เพื่อที่จะให้ฉู่เทียนนั้นได้เป็นเจ้าหน้าที่ราชสำนักของรัฐกลาง.

ใครจะรู้เล่า,การที่สามารถได้เป็นขุนพลแนวหน้านั้น,มีแต่คนที่อยุ่ในระดับต้นๆของรัฐกลางทั้งนั้น!

และใครจะรู้อีกล่ะฉู่เทียนกับยักไหล่,พร้อมกับกล่าวออกไปว่า"ต้องขออภัยด้วย,ข้าเคยชินกับความเป็นอิสระเสรี,ชีวิตข้านั้นไม่เหมาะกับกองทัพ,ความปรารถนาดีของแม่ทัพนั้นข้าคงต้องรับเอาไว้ด้วยใจเท่านั้น!"

แม่ทัพซ่งถึงกับร้อนรนทีเดียว!

นี่มัน?

หากว่าเขาปล่อยคนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ไป,ใครจะรู้เล่าว่าอาจจะมีกลุ่มอำนาจอื่นรับเขาไป,และนั่นจะเกิดปัญหาใหญ่ขนาดใหนขึ้นกัน!

ฉู่เทียนกล่าวต่อไปอีกว่า"แม่ทัพซ่ง,พวกเราต้องได้พบกันอีกแน่,นอกจากนี้คงอีกไม่นานนี้ล่ะ."

แม่ทัพซ่งนั้นหมดหนทางเช่นกันจึงได้กล่าวต่อไปว่า"เช่นนั้นข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นขุนพลม้าพเนจรก็แล้วกัน,นี่เป็นตำแหน่งที่มีอิสระเสรี,ไม่มีข้อจำกัดในการทำงาน."

ขุนพลม้าพเนจรนั้นจะเป็นส่วนบุคลากรคนหนึ่งในกองทัพ.

แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีอำนาจอะไรในกองทัพ.

อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นตำแหน่งในนาม,หากแต่ด้วยสถานะที่ได้รับนั้น,พวกเขาก็ยังถือว่าเป็นสมาชิกของคนในกองทัพ,ด้วยสถานะดังกล่าวย่อมได้สิทธิพิเศษบางอย่าง,ได้รับความสะดวกสบายในการติดต่อกับทางการด้วยเช่นกัน.
...

จากนั้นแม่ทัพซ่งก็ได้นำคนของเขาตรวจสอบและเก็บกวดทุกๆอย่างภายในค่ายแห่งนี้.

ฉู่เทียนเองก็ไม่มีธุระที่จะทำที่นี่อีกต่อไป,ดังนั้นเขาจึงเตรียมการที่จะนำสินค้ากลับเมืองเทียนหนานในทันที,พร้อมทั้งได้กล่าวลากลับหลินมู่และฟางหานด้วยเช่นกัน.

ใบหน้าของหลินมูนั้นเต็มไปด้วยความชื่นชมฉู่เทียน"น้องลู,ข้าเองไม่รู้ควรที่จะสอบถามออกไปหรือไม่?ในเมื่อเจ้าเองก็ไม่ได้ต้องการตำแหน่งของราชสำนัก,นั่นก็หมายว่าเจ้าต้องการใช้ชีวิตอิสระ,แน่นอนว่าอาชีพทหารรับจ้างเองก็นับว่าเป็นอาชีพที่มีอิสรเสรีเหมือนกัน,เจ้าเองไม่คิดที่จะเป็นทหารรับจ้างดูบ้างรึ?"

เป็นทหารรับจ้างอย่างงั้นรึ?

ฉู่เทียนเผยยิ้มออกมา.

หลินมู่เร่งรีบกล่าวออกมาอีก"ข้าคิดว่าเจ้าเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าของพวกเรา,หากว่าเจ้ายินดีเข้าร่วมกับพวกเราล่ะก็,พวกเราทั้งสองยินดีที่จะติดตามเจ้าตลอดไป!"

แน่นอนว่าฉู่เทียนนั้นไม่เคยคิดว่าจะเป็นทหารรับจ้างเลย.

อย่างไรก็ตามฉู่เทียนที่คิดว่าหอการค้าปาฏิหาริย์ที่กำลังขยายออกไปช้าๆนั้น,ย่อมจำเป็นที่จะต้องมีกองกำลังเป็นของตัวเอง,หากว่าหอการค้าเริ่มมีขนาดใหญ่พอแล้วไม่มีกองกำลังเป็นของตัวเองล่ะก็,ย่อมจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในอนาคตข้างหน้าแน่นอน.

หอการค้าปาฏิหาริย์จำเป็นที่ต้อสร้างและฝึกฝนกองกำลังทหารรับจ้างในวันหน้าอย่างแน่นอน.

"การเป็นทหารรับจ้างนั้นข้าไม่ได้มีความสนใจ"ฉู่เทียนกล่าวออกไปเสียงดังก่อนจะหยุดและกล่าวต่อ  "แต่ว่า,พวกเจ้าหากว่าสนใจล่ะก็,ในอนาคตพวกเราสามารถร่วมงานกันได้,พวกเราสามารถสร้างองค์กรที่ยิ่งใหญ่ร่วมกันได้."

หลินมู่และฟางหานถึงกับเบิกตากว้าง,เผยท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,หากสามารถได้ร่วมงานกับคนเช่นนี้,นับว่าเป็นโชคลาภก้อนใหญ่ทีเดียว,"พวกเราจะต้องทำอย่างไร?"

"ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา,"ฉู่เทียนเผยยิ้ม,"พวกเจ้ากลับไปรอที่รัฐกลางก่อน,เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว,พวกเราจะต้องได้พบกัน,เวลานั้นพวกเจ้าก็จะรู้สถานะที่แท้จริงของข้า,และนั่นก็จะทำให้พวกเจ้าเข้าใจทุกอย่างโดยที่ข้าไม่ต้องอธิบายใดๆ!"

คนทั้งสองจ้องมองหน้ากันและกันด้วยท่าทางงงงวย.

ลึกลับ,จนพวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ!

ภารกิจของฉู่เทียนในครั้งนี้นับว่าประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม.

ไม่เพียงแต่ได้รับสินค้าของหอการค้าเทียนเฉินที่ถูกปล้นไป,นอกจากนี้เขายังเก็บเกี่ยวอย่างอื่นได้อีกมากมาย,ตอนนี้ไม่มีอะไรให้เขาต้องอยู่ที่แห่งนี้แล้ว.

เขาจึงได้เร่งรีบกลับไปด้วยความเร็วสูง.


ไม่นานหลังจากนั้นก็กลับสู่เมืองเทียนหนาน.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

2 ความคิดเห็น: